“ดีอี” เตือน! มิจฉาชีพแฝงตัวเป็น “จนท.สหกรณ์-ธนาคาร-ครู” หลอกลงทุน ติดตั้งแอปดูดเงิน

“โฆษกดีอี” เตือนภัยประชาชนระวังมิจฉาชีพแฝงตัวเป็น “จนท.สหกรณ์-ธนาคาร-ครู” หลอกติดตั้งแอปฯ-เทรดหุ้น สูญกว่า 9 ล้าน แนะยึดหลัก “4 ไม่” ก่อนทำธุรกรรม


นางสาววงศ์อะเคื้อ บุญศล โฆษกกระทรวงดิจิทัลเพื่อเศรษฐกิจและสังคม (ดีอี) ฝ่ายการเมือง เปิดเผยข้อมูลจากศูนย์ AOC 1441 (Anti Online Scam Operation Center) ว่า ในช่วงวันที่ 16 – 22 มิถุนายน 2568 พบกรณีอาชญากรรมออนไลน์ที่สร้างความเสียหายให้แก่ประชาชน รวม 5 คดี มูลค่าความเสียหายรวมทั้งสิ้น 9,034,849 บาท โดยมีรูปแบบการหลอกลวงที่หลากหลาย เช่น การชักชวนลงทุน การอ้างตัวเป็นเจ้าหน้าที่ และการติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม

ทั้งนี้ คดีที่สร้างความเสียหายสูงสุด คือ การหลอกให้ลงทุนเทรดหุ้นน้ำมันดิบผ่าน Facebook และ Line มูลค่า 2.25 ล้านบาท โดยผู้เสียหายได้รับผลตอบแทนจริงช่วงแรก ก่อนถูกเรียกเก็บค่าภาษีและค่าธรรมเนียมเพิ่มเติม และไม่สามารถถอนเงินได้ในภายหลัง ส่วนอีกคดีหนึ่งเป็นการแอบอ้างว่าเป็นเจ้าหน้าที่ธนาคาร โทรศัพท์ข่มขู่ผู้เสียหายว่าเกี่ยวข้องกับคดีฟอกเงิน และให้โอนเงินเพื่อ “ตรวจสอบบัญชี” สร้างความเสียหายอีกกว่า 1.78 ล้านบาท

คดีที่น่าจับตาอีกกรณี คือ การแอบอ้างเป็นเจ้าหน้าที่สหกรณ์ออมทรัพย์ครู ชักชวนให้ติดตั้งแอปพลิเคชันปลอม โดยอ้างว่าเพื่อเข้าถึงข้อมูลสมาชิก แต่แท้จริงคือแอปดูดเงิน ทำให้ผู้เสียหายสูญเงินกว่า 1 ล้านบาท ขณะที่อีก 2 คดีเกี่ยวข้องกับการลงทุนเทรดหุ้นผ่านกลุ่ม Line และการรับงานออนไลน์ผ่าน TikTok ล้วนมีรูปแบบหลอกลวงคล้ายคลึงกัน โดยอาศัยผลตอบแทนในช่วงแรกเพื่อจูงใจ ก่อนหลอกให้โอนเงินเพิ่มอย่างต่อเนื่อง

โฆษกกระทรวงดีอีรายงานว่า ตั้งแต่ 1 พฤศจิกายน 2566 ถึง 20 มิถุนายน 2568 ศูนย์ AOC 1441 ได้รับสายร้องเรียนกว่า 1.83 ล้านสาย ระงับบัญชีธนาคารที่เกี่ยวข้องกับมิจฉาชีพแล้ว 725,396 บัญชี โดย 5 ประเภทคดีที่พบมากที่สุด ได้แก่ หลอกลวงซื้อขายสินค้า (31.66%) หลอกหารายได้พิเศษ (23.11%) หลอกให้โอนเงินเพื่อรับรางวัล (13.94%) หลอกลงทุน (13.94%) และหลอกให้กู้เงิน (7.13%)

นางสาววงศ์อะเคื้อกล่าวว่า กลุ่มมิจฉาชีพมีการปรับรูปแบบตลอดเวลา โดยอาศัยความน่าเชื่อถือขององค์กรต่าง ๆ เช่น สหกรณ์ออมทรัพย์ครู หรือธนาคาร มาเป็นเครื่องมือในการชักจูง และมักหลอกให้ติดตั้งแอปพลิเคชันหรือกดลิงก์ที่ไม่ปลอดภัย พร้อมย้ำว่า เจ้าหน้าที่รัฐจะไม่มีการโทรศัพท์แจ้งความ หรือขอให้โอนเงินเพื่อตรวจสอบข้อมูลใด ๆ

เพื่อป้องกันภัยออนไลน์ กระทรวงดีอีแนะนำให้ประชาชนยึดหลัก “4 ไม่” ได้แก่ 1. ไม่กดลิงก์ 2. ไม่เชื่อทันที 3. ไม่รีบร้อน และ 4. ไม่โอนเงินโดยไม่ตรวจสอบ พร้อมเดินหน้าปราบปรามอาชญากรรมออนไลน์อย่างจริงจัง และส่งเสริมการรับรู้ผ่านศูนย์ AOC 1441 หากประชาชนสงสัยหรือได้รับผลกระทบจากมิจฉาชีพออนไลน์ สามารถติดต่อสายด่วน AOC 1441, สายด่วนรัฐบาล 1111 (ตลอด 24 ชั่วโมง) หรือแจ้งข้อมูลผ่าน Line ID: @antifakenewscenter และเว็บไซต์ www.antifakenewscenter.com

Back to top button