KKPS แนะซื้อ TOP เป้า 38.20 บาท รับข่าวดี CFP เดินหน้าต่อ ลุยแต่งตั้งผู้รับเหมาใหม่

“บล.เกียรตินาคินภัทร” แนะนำซื้อหุ้น TOP มองความคืบหน้าโครงการ CFP หนุนมูลค่าหุ้นฟื้นหลังแต่งตั้งผู้จัดการโครงการใหม่ และคัดเลือกผู้รับเหมาแทน UJV


บริษัทหลักทรัพย์ เกียรตินาคินภัทร จำกัด (มหาชน) หรือ KKPS ยังคงคำแนะนำ “ซื้อ” หุ้น บริษัท ไทยออยล์ จำกัด (มหาชน) หรือ TOP พร้อมให้ราคาเป้าหมายที่ 38.20 บาท โดยอ้างอิงจากความคืบหน้าของโครงการพลังงานสะอาด (Clean Fuel Project: CFP) ซึ่งล่าสุดไทยออยล์ได้แต่งตั้งบริษัท Wood PLC เป็นผู้บริหารโครงการในรูปแบบ EPCM (Engineering, Procurement, and Construction Management) ซึ่งต่างจากสัญญาแบบ EPC ที่ส่งมอบงานแบบเบ็ดเสร็จ โดยไทยออยล์ยังคงบริหารงบประมาณและคัดเลือกผู้รับเหมาเอง

โดยปัจจุบันไทยออยล์อยู่ระหว่างคัดเลือกผู้รับเหมา EPC รายใหม่เพื่อมาแทนที่กลุ่ม UJV ที่ถูกยกเลิกสัญญา เนื่องจากความล่าช้าและข้อพิพาทด้านงบประมาณ โดย Bechtel International และ JGC จากญี่ปุ่น ถือเป็นผู้เข้าชิงรายสำคัญ ซึ่งคาดว่าจะได้ข้อสรุปภายในไตรมาส 3/2568

ทั้งนี้ ในส่วนของผู้รับเหมาช่วงเดิม บล.เกียรตินาคินภัทรระบุว่า ส่วนใหญ่จะได้รับการแต่งตั้งกลับเข้ามาดำเนินงานอีกครั้ง โดยไม่มีข้อผูกพันทางกฎหมายกับกรณีข้อพิพาทของกลุ่ม UJV อาทิ บริษัท สเตคอน กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ STECON ที่ลงนามสัญญาก่อสร้างงานโครงสร้าง เครื่องกล และระบบท่อ กับไทยออยล์ มูลค่า 7,400 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินงาน 20 เดือน เริ่มตั้งแต่เดือนมิถุนายน 2568 และบริษัท ศรีราชาคอนสตรัคชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SRICHA ได้รับงานลักษณะเดียวกัน มูลค่า 7,800 ล้านบาท ระยะเวลาดำเนินการ 19 เดือน

ด้านการเงิน ไทยออยล์ได้ใช้สิทธิ์บังคับหลักประกัน (Performance Bond) งวดสุดท้ายจาก UJV มูลค่า 122 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ในไตรมาส 2/2568 ส่งผลให้รวมรายได้จากการบังคับหลักประกันตลอดโครงการสูงถึง 440 ล้านดอลลาร์สหรัฐ เพื่อนำไปชดเชยต้นทุนที่เกินประมาณการในโครงการ CFP ซึ่งเพิ่มขึ้นกว่า 1.8 พันล้านดอลลาร์

โดย KKPS ระบุว่า ความเสี่ยงจากโครงการ CFP เป็นปัจจัยหลักที่กดดันราคาหุ้นไทยออยล์ในช่วงที่ผ่านมา ทำให้ระดับ P/B ลดลงแตะเพียง 0.4 เท่า จากระดับปกติที่ 0.8 เท่า อย่างไรก็ดี เหตุการณ์ล่าสุด อาทิ การได้รับเงินประกัน การเดินหน้าโครงการอีกครั้ง การแต่งตั้งผู้รับเหมารายใหม่ และแนวโน้มค่าการกลั่นสิงคโปร์ (SG GRM) ฟื้นตัว ล้วนเป็นปัจจัยสนับสนุนให้หุ้น TOP มีโอกาสกลับมาฟื้นมูลค่าได้อีกครั้งในระยะถัดไป

Back to top button