
ETC หมดไฟ.! แล้วไงต่อ.?
จะว่าเป็นข่าวดี...ก็ได้นะ กรณีสองแม่ลูก ETC และ BWG ปิดดีลขายโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม จำนวน 12 โครงการ กำลังการผลิตรวม 96 เมกะวัตต์
จะว่าเป็นข่าวดี…ก็ได้นะ กรณีสองแม่ลูกบริษัท เอิร์ธ เท็ค เอนไวรอนเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ ETC และบริษัท เบตเตอร์ เวิลด์ กรีน จำกัด (มหาชน) หรือ BWG ปิดดีลขายโครงการโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม จำนวน 12 โครงการ กำลังการผลิตรวม 96 เมกะวัตต์ และขายโครงการโรงงานผลิตเชื้อเพลิงแข็งจากขยะอุตสาหกรรม จำนวน 3 โครงการ ให้กับบริษัท กัลฟ์ เวสท์ ทู เอ็นเนอร์จีโฮลดิ้งส์ จํากัด (GWTE) ซึ่งเป็นบริษัทลูกของบริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF คิดเป็นมูลค่ารวม 1,100 ล้านบาท
ธุรกรรมแบ่งเป็น ETC ขายหุ้นในบริษัท เก็ท กรีน พาวเวอร์ จำกัด (GGP) สัดส่วน 50% ที่ราคาหุ้นละ 193.33 บาท คิดเป็นมูลค่า 724.99 ล้านบาท และขายหุ้นในบริษัท ซันเทค อินโนเวชั่น พาวเวอร์ จำกัด (SIP) สัดส่วน 33% ที่ราคาหุ้นละ 151.52 บาท คิดเป็นมูลค่า 125 ล้านบาท
ฟากตัวแม่ BWG จะขายหุ้นทั้งหมดที่ถือในบริษัท เซอร์คูลาร์ แคมป์ จำกัด (CC) สัดส่วน 50% ที่ราคาหุ้นละ 20 บาท คิดเป็นมูลค่า 249.99 ล้านบาท
ที่ว่าเป็นข่าวดี เพราะจะมีเงินสดก้อนโตเข้ามาเติมสภาพคล่องให้กับสองแม่ลูกคู่นี้ โดยเฉพาะ ETC ที่จะมีเงินเข้ากระเป๋ากว่า 849.99 ล้านบาท สำหรับใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียน ต่อยอดธุรกิจ ขยายการลงทุน รวมถึงชำระหนี้ต่อไป
แต่อย่าลืมว่าเหรียญมีสองด้านเสมอ เมื่อมีด้านดี…ก็ต้องมีด้านไม่ดี ซึ่งในกรณีนี้ถูกตั้งคำถามกันเยอะว่า เมื่อ ETC ขายโรงไฟฟ้าไปตั้ง 12 โครงการ…แล้วจะยังไงต่อ..??
ส่งผลให้ช่วงกลางสัปดาห์ก่อนนักลงทุนพากันหนีตายจากหุ้น ETC กันจ้าละหวั่น ฉุดให้ราคาทรุดหนัก…
ร้อนถึงบริษัทต้องออกโรงชี้แจงว่า “มีโรงไฟฟ้าเดิม 3 โรงของ ETC ที่ยังคงดำเนินการผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าให้การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค (กฟภ.) ตามปกติ” โปรดรับทราบตามนี้
ถ้าให้วิเคราะห์อนาคตของ ETC…ไม่แน่ต่อไปอาจทำตัวเป็นนายท่าก็ได้นะ..??
ด้วยจุดเด่นของ ETC ที่มีโนว์ฮาวด้านโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรม ซึ่งในประเทศไทยมีไม่กี่บริษัทหรอกที่มีโนว์ฮาวด้านนี้ พิสูจน์ทราบได้จากเมื่อครั้งที่คณะกรรมการกำกับกิจการพลังงาน (กกพ.) ออกประกาศจัดหาไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียนในรูปแบบ Feed-in Tariff ปี 2565-2573 สำหรับขยะอุตสาหกรรม พ.ศ. 2565
ปรากฎว่า ETC ฟาดเรียบ 10 โครงการ กำลังการผลิตรวม 80 เมกะวัตต์ จากปริมาณเสนอขายรวม 100 เมกะวัตต์
ด้านโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมต้องยกให้ ETC เขาแหละ ซึ่งมีความเชี่ยวชาญที่หาตัวจับยาก…
แถมยังได้เปรียบในเรื่องของวัตถุดิบ เนื่องจากมีแม่ BWG ซึ่งเป็นบริษัทรับกำจัดขยะอุตสาหกรรมคอยป้อนวัตถุดิบให้…ทำให้ไม่มีปัญหาขาดแคลนวัตถุดิบ
เรียกว่ามีทั้งโนว์ฮาวและวัตถุดิบ มีความพร้อมหลาย ๆ ด้าน..!!
งั้นแม้จะขายโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมไปแล้ว แต่โนว์ฮาวยังคงอยู่…ETC ก็คงเดินหน้าประมูลโครงการใหม่ส่วนประมูลมาได้แล้ว จะขายต่อมั้ย..?? ก็ไม่รู้สินะ
เพราะยังไงขยะอุตสาหกรรมก็มีเพิ่มเรื่อย ๆ…ซึ่งนั่นหมายถึงโอกาสในการสร้างโรงไฟฟ้าขยะอุตสาหกรรมยังมีอยู่
ส่วน BWG แทบผูกขาดในตลาดขยะอุตสาหกรรมอยู่แล้ว มีอีกเจ้าที่อยู่ในตลาดหลักทรัพยฯ เป็นบริษัทบริหารและพัฒนาเพื่อการอนุรักษ์สิ่งแวดล้อม จำกัด (มหาชน) หรือ GENCO แต่หลัง ๆ มาเงียบหายไป หลังเกิดกรณีอื้อฉาวเมื่อหลายปีก่อน
กลับมาที่ ETC ก็ยังไม่ถึงขั้นสิ้นไร้ไม้ตอกเสียทีเดียว…ยังมีช่องทางทำมาหากินได้อยู่หนา…
ส่วนทำแล้วจะสร้างการเติบโตได้มากน้อยแค่ไหน..?? ให้เวลาเป็นเครื่องพิสูจน์ละกัน…
…อิ อิ อิ…