“กรมบัญชีกลาง” เคลียร์ข่าวจัดซื้อจัดจ้าง 1.57 แสนลบ. ยื่นประมูลรายเดียว ไม่ใช่รับงานทันที

กรมบัญชีกลางชี้แจงข่าวการจัดซื้อจัดจ้างงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท ย้ำการยื่นประมูลรายเดียวต้องปฏิบัติตามระเบียบกระทรวงการคลัง ไม่ใช่รับงานทันทีตามที่ข่าวนำเสนอ


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (21 ก.ค.68) นางแพตริเซีย มงคลวนิช อธิบดีกรมบัญชีกลาง ชี้แจงกรณีที่มีการเผยแพร่ข่าวที่ระบุว่า “การจัดซื้อจัดจ้างงบกระตุ้นเศรษฐกิจ 1.57 แสนล้านบาท ยื่นประมูลรายเดียว รับงานได้เลย” โดยได้มีการอ้างอิงหนังสือเวียนของคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.4/ ว 459 ลงวันที่ 7 กรกฎาคม 2568 ซึ่งในเนื้อหาของหนังสือเวียนฉบับดังกล่าว ให้ดำเนินการโดยอ้างอิงหนังสือเวียนของคณะกรรมการวินิจฉัยปัญหาการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ ด่วนที่สุด ที่ กค (กวจ) 0405.4/ว 195 ลงวันที่ 20 มีนาคม 2568 ที่ระบุว่า การพิจารณาผลกรณีที่มีผู้ยื่นข้อเสนอเพียงรายเดียว ให้คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ดำเนินการตามระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 56 วรรคหนึ่ง

ดังนั้น กรณีมีผู้ยื่นข้อเสนอรายเดียว หน่วยงานของรัฐต้องปฏิบัติตามนัยระเบียบกระทรวงการคลังฯ ข้อ 56 วรรคหนึ่ง ไม่ใช่ยื่นรายเดียวแล้วรับงานได้เลยตามที่ข่าวนำเสนอ ทั้งนี้ ระเบียบกระทรวงการคลังว่าด้วยการจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560 ข้อ 56 วรรคหนึ่ง กำหนดว่า ในกรณีที่ปรากฏว่า มีผู้ยื่นข้อเสนอรายเดียวหรือมีผู้ยื่นข้อเสนอหลายรายแต่ถูกต้องตามเงื่อนไขที่กำหนดในเอกสารประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์เพียงรายเดียว

ทั้งนี้ให้คณะกรรมการพิจารณาผลการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์เสนอหัวหน้าหน่วยงานของรัฐผ่านเจ้าหน้าที่เพื่อยกเลิกการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ครั้งนั้น แต่ถ้าคณะกรรมการพิจารณาแล้วเห็นว่า มีเหตุผลสมควรที่จะดำเนินการต่อไปโดยไม่ยกเลิกการประกวดราคาอิเล็กทรอนิกส์ ให้คณะกรรมการดำเนินการตามข้อ 57 หรือข้อ 58 แล้วแต่กรณี โดยอนุโลม

อธิบดีกรมบัญชีกลาง กล่าวเน้นย้ำว่า ข่าวดังกล่าวมีการนำที่นำเสนอข้อมูลที่ไม่ครบถ้วน ไม่ได้มีการไปตรวจสอบระเบียบที่อ้างถึงว่ากำหนดอย่างไร ซึ่งในการดำเนินการจัดซื้อจัดจ้างของหน่วยงานรัฐ ไม่ว่าจะเป็นการใช้จ่ายจากเงินงบประมาณหรือเงินนอกงบประมาณต้องดำเนินการตามกฎหมายที่เกี่ยวข้อง ก่อให้เกิดประโยชน์สูงสุด ต่อหน่วยงานของรัฐ และสอดคล้องกับหลักการคุ้มค่า โปร่งใส มีประสิทธิภาพและประสิทธิผล ตรวจสอบได้ตามนัยมาตรา 8 แห่ง พระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) การจัดซื้อจัดจ้างและการบริหารพัสดุภาครัฐ พ.ศ. 2560

อย่างไรก็ตาม ผู้ที่สนใจสามารถติดตามข้อมูลการจัดซื้อจัดจ้างตามกรอบ 1.57 แสนล้านบาทนี้ได้จาก www.gprocurement.go.th

Back to top button