
“สุเชษฐ์” มอง SET ทดสอบ 1,230 จุด แนะกลยุทธ์เก็งกำไร “รายตัว” ชู 15 หุ้นเด่น
“สุเชษฐ์ สุขแท้” ประเมิน SET เคลื่อนไหวในกรอบ 1,200–1,230 จุด รับแรงหนุนผู้ว่า ธปท. คนใหม่ แนะกลยุทธ์ “เลือกซื้อรายตัว” ชู 15 หุ้นเด่น เน้นส่งออก โรงแรม โรงพยาบาล
นายสุเชษฐ์ สุขแท้ รองกรรมการผู้จัดการฝ่ายมีเดียมาร์เก็ตติ้ง บริษัทหลักทรัพย์ เอเอสแอล จำกัด (ASL) เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด” วันที่ 22 กรกฎาคม 2568 ว่า แนวโน้มตลาดหุ้นไทยยังคงเคลื่อนไหวในกรอบขาขึ้น โดยประเมินแนวต้านของดัชนีอยู่ที่ 1,230 จุด ขณะที่แนวรับสำคัญอยู่ที่ 1,200 และ 1,190 จุด
โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลักจากความชัดเจนในการแต่งตั้งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ ซึ่งช่วยสร้างความเชื่อมั่นให้กับนักลงทุนทั้งในและต่างประเทศ รวมถึงความคาดหวังเชิงบวกจากแนวโน้มการเจรจาการค้าระหว่างไทยกับสหรัฐฯ ที่อาจนำไปสู่การลดภาษี “ทรัมป์” จากเดิม 36% เหลือเพียง 18–20% ส่งผลบวกต่อกลุ่มส่งออกและการฟื้นตัวของเศรษฐกิจในช่วงครึ่งหลังปี 2568
ทั้งนี้ ASL แนะนำกลยุทธ์ “เลือกหุ้นรายตัว” ที่มีปัจจัยพื้นฐานสนับสนุนและได้อานิสงส์จากสถานการณ์ปัจจุบัน โดยเฉพาะหุ้นในกลุ่ม สินเชื่อจำนำทะเบียน ได้แก่ MTC ที่มีแนวรับบริเวณ 37.25 บาท และแนวต้าน 40 บาท หากผ่านได้มีโอกาสขึ้นต่อถึง 45 บาท ขณะที่ SAWAD ก็เป็นอีกตัวที่น่าจับตาจากแรงเก็งกำไรในกลุ่มสินเชื่อ
ด้านกลุ่มค้าปลีกและอาหาร แนะนำ CPALL หากผ่านแนวต้าน 45 บาท ได้มีโอกาสเดินหน้าถึง 50 บาท ขณะที่ TU ซึ่งอ่อนตัวช่วงก่อนหน้าเริ่มมีสัญญาณฟื้นตัว โดยมีแนวต้านที่ 11.50–11.60 บาท จากการคาดหวังว่าภาษีส่งออกไปสหรัฐฯ จะลดลง หนุนผลประกอบการในครึ่งปีหลัง
ส่วนหุ้น AAI เป็นหุ้นขนาดเล็กในกลุ่มอาหารที่เหมาะสำหรับเก็งกำไรระยะสั้น โดยมีแนวรับที่ 4.20 บาท และแนวต้าน 4.50 บาท ด้าน KTC มีแนวโน้มปรับขึ้นต่อ โดยมีแนวต้านสำคัญที่ 35 บาท ตามเส้นค่าเฉลี่ย 75 วัน
ขณะที่กลุ่มเทคโนโลยีและชิ้นส่วนอิเล็กทรอนิกส์ ที่เคลื่อนไหวตามหุ้นใหญ่ เช่น DELTA แม้ราคาปรับขึ้นสูงแล้ว แต่ยังสามารถเลือกลงทุนในหุ้นรอง เช่น HANA และ KCE ที่ราคายังมีความน่าสนใจและมีโอกาสได้อานิสงส์จากการส่งออกชิ้นส่วนไปสหรัฐฯ
กลุ่มท่องเที่ยวและโรงแรมมองว่าหุ้น MINT และ AOT ยังมีความน่าสนใจ แม้ราคาจะผันผวนในระยะสั้นจากปัจจัยภายนอก แต่หากพ้นช่วงฤดูฝนไปแล้วคาดว่าจะเข้าสู่ช่วงพีกในไตรมาส 4/2568 โดยเฉพาะหุ้นโรงแรมอย่าง CENTEL ที่มีการขยายธุรกิจในต่างประเทศ รวมถึงกลุ่มค้าปลีกภายใต้เครือเซ็นทรัลอย่าง CPN และ CRC ซึ่งเริ่มส่งสัญญาณฟื้นตัวจากกำลังซื้อที่กลับมาและการขยายตลาดในต่างประเทศ
สุดท้ายในกลุ่มโรงพยาบาล แนะนำหุ้น BDMS ที่ยังมีราคาถูกเมื่อเทียบกับศักยภาพการเติบโต และ BH ที่แม้ราคาสูงแต่ยังมีพรีเมียมจากการรองรับผู้ป่วยต่างชาติ โดยทั้งสองหุ้นยังเป็นกลุ่ม Defensive Play ที่ช่วยประคองตลาดในภาวะผันผวน
นายสุเชษฐ์ ระบุอีกว่า ช่วงนี้ยังไม่ควรไล่ราคาหุ้นที่ปรับตัวขึ้นแรง เช่น DELTA แต่ควรเลือกลงทุนในหุ้นรองที่ยังแลกการ์ดและมีโอกาสฟื้นตัว พร้อมแนะนำให้ทยอยสะสมหุ้นพื้นฐานดีในช่วงตลาดอ่อนตัว โดยเฉพาะหากดัชนีปรับฐานไม่หลุด 1,190 จุด ยังสามารถเก็งกำไรในกรอบแนวรับ–แนวต้านได้