“กรุงศรี” มองบวกกลุ่ม “ไฟฟ้า-สื่อสาร-อสังหา” เตรียมรับดอกเบี้ยขาลง

ผู้สื่อข่าวรายงานกรณี นายจิรายุ ห่วงทรัพย์ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลัง เสนอคณะรัฐมนตรีเพื่อพิจารณาให้ความเห็นชอบแต่งตั้ง นายวิทัย รัตนากร ดำรงตำแหน่ง ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทย เพื่อทดแทนตำแหน่งที่จะว่าง เนื่องจาก นายเศรษฐพุฒิ สุทธิวาทนฤพุฒิ ผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยจะครบวาระการดำรงตำแหน่ง ในวันที่ 30 กันยายน 2568 โดยให้มีผลตั้งแต่วันที่ 1 ตุลาคม 2568 เป็นต้นไป

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุว่า คณะรัฐมนตรีได้อนุมัติแต่งตั้งนายวิทัย รัตนากร ดำรงตำแหน่งผู้ว่าการธนาคารแห่งประเทศไทยคนใหม่ ซึ่งช่วยคลี่คลายความไม่แน่นอนช่วงรอยต่อของนโยบายการเงิน และคาดว่าจะเป็นจุดเริ่มต้นของการเร่งใช้นโยบายการเงินแบบผ่อนคลายในระยะถัดไป

โดยประเมินว่า Real Yield (ดอกเบี้ยนโยบายลบด้วยเงินเฟ้อ) ยังคงเป็นบวกต่อเนื่องมา 26 เดือน สะท้อนโอกาสของการลดดอกเบี้ย ซึ่ง Krungsri Research คาดว่าจะเกิดขึ้น 2 ครั้งภายในช่วงเวลาที่เหลือของปีนี้

ขณะเดียวกันมุมมองของตลาดผ่านตลาดพันธบัตรพบว่า ผลตอบแทนพันธบัตรรัฐบาลไทยอายุ 1 ปี (TH Bond Yield 1Y) อยู่ที่ 1.427% เทียบกับอัตราดอกเบี้ยนโยบายที่ 1.75% ซึ่งบ่งชี้ถึงความคาดหวังต่อการลดดอกเบี้ยมากกว่า 1 ครั้ง ทั้งนี้ ทุกการปรับลดอัตราดอกเบี้ย 0.25% จะส่งผลบวกต่อดัชนี SET ราว 50–55 จุด

กลยุทธ์การลงทุนแนะนำให้เน้นหุ้นที่ได้ประโยชน์จากทิศทางดอกเบี้ยขาลง ควบคู่กับปัจจัยเสริมเฉพาะตัว โดยเฉพาะ:

กลุ่มโรงไฟฟ้า ได้แรงหนุนจากค่าเงินบาทแข็งค่ามากที่สุดตั้งแต่เดือน ต.ค. 2567 และราคาก๊าซธรรมชาติ NYMEX ลดลง 6.7% แนะนำ บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF

กลุ่ม High Yield หุ้นสื่อสารโดยเฉพาะ บริษัท แอดวานซ์ อินโฟร์ เซอร์วิส จำกัด (มหาชน) หรือ ADVANC ซึ่งเป็นหุ้น Big Cap ที่กลับมาเป็นผู้นำตลาด

กลุ่มอสังหาริมทรัพย์ หุ้น Laggard ที่ยังไม่สะท้อนมูลค่าที่แท้จริง เช่น บริษัทแลนด์แอนด์เฮ้าส์ จำกัด (มหาชน) หรือ LH และ บริษัท ศุภาลัย จำกัด (มหาชน) หรือ SPALI

กลุ่ม REITs และกองทุนโครงสร้างพื้นฐาน ที่ให้ Real Yield มากกว่า 5% และมีสภาพคล่องสูง เช่น ทรัสต์เพื่อการลงทุนในสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์ดับบลิวเอชเอ อินดัสเตรียล หรือ WHAIR, ทรัสต์เพื่อการลงทุนในอสังหาริมทรัพย์และสิทธิการเช่าอสังหาริมทรัพย์เพื่ออุตสาหกรรม เฟรเซอร์ส พร็อพเพอร์ตี้ หรือ FTREIT, กองทุนรวมโครงสร้างพื้นฐานบรอดแบนด์อินเทอร์เน็ต สามบีบี หรือ 3BBIF

กลุ่มหนี้สูง หุ้น Laggard ในกลุ่ม SET50 เช่น บริษัท ซีพี ออลล์ จำกัด (มหาชน) หรือ CPALL และบริษัท บัตรกรุงไทย จำกัด (มหาชน) หรือ KTC