“กรุงศรี” เปิดมาตรการด่วน ช่วยลูกค้าน้ำท่วม-ชายแดน ครอบคลุม “บุคคล-เอสเอ็มอี”

ธนาคารกรุงศรีอยุธยา จำกัด (มหาชน) หรือ BAY และบริษัทในเครือ ออกมาตรการเร่งด่วนเพื่อช่วยเหลือลูกค้าครอบคลุมทุกกลุ่มที่ได้รับผลกระทบจากสถานการณ์อุทกภัยฉับพลัน อันเกิดจากอิทธิพลของพายุโซนร้อน “วิภา” และสถานการณ์ความไม่สงบบริเวณชายแดน โดยมาตรการดังกล่าวครอบคลุมลูกค้าสินเชื่อบุคคล สินเชื่อบ้าน สินเชื่อ SME สินเชื่อรถยนต์ และสินเชื่อภายใต้กลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์

สำหรับลูกค้าสินเชื่อบุคคล สินเชื่อบ้าน และสินเชื่อ SME รายย่อย กรุงศรีเสนอทางเลือกช่วยเหลือ ได้แก่ การลดค่างวดรวมดอกเบี้ยในแต่ละเดือน สูงสุด 6 เดือน หรือการพักชำระเงินต้น (ชำระเฉพาะดอกเบี้ย) สูงสุด 3 เดือน โดยลูกค้าสามารถแจ้งความประสงค์ได้ที่สาขาธนาคารกรุงศรีทั่วประเทศ หรือ Krungsri Call Center 1572 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568 ทั้งนี้ การพิจารณาขึ้นอยู่กับหลักเกณฑ์ของธนาคาร

ทั้งนี้ ในส่วนของลูกค้าสินเชื่อธุรกิจ SME ขนาดกลางและใหญ่ สามารถเลือกใช้มาตรการลดค่างวดครอบคลุมดอกเบี้ย หรือพักชำระเงินต้นได้นานสูงสุด 6 เดือนเช่นกัน โดยติดต่อผู้จัดการธุรกิจสัมพันธ์ (Relationship Manager) หรือสอบถามที่หมายเลข 02-296-6262 หรือ 02-626-2626 ถึงวันที่ 30 ธันวาคม 2568

สำหรับลูกค้ากลุ่มสินเชื่อรถยนต์ภายใต้ “กรุงศรี ออโต้” จะได้รับสิทธิเข้าร่วมมาตรการพักชำระค่างวดสูงสุด 3 เดือน โดยสามารถแจ้งความจำนงและสอบถามรายละเอียดเพิ่มเติมได้ที่โทร. 02-740-7400 กด 3 ตั้งแต่วันนี้ถึงวันที่ 30 กันยายน 2568

ด้านลูกค้าบัตรเครดิตและสินเชื่อส่วนบุคคลในกลุ่มกรุงศรี คอนซูมเมอร์ จะได้รับความช่วยเหลือใน 2 มาตรการ ได้แก่

1.มาตรการพักชำระหนี้สูงสุด 2 รอบบัญชี สำหรับบัญชีสถานะปกติ ระหว่างเดือนกรกฎาคมถึงกันยายน 2568 โดยดอกเบี้ยจะยังคงคำนวณตามอัตราปกติแบบลดต้นลดดอก โดยสามารถลงทะเบียนขอรับสิทธิ์ได้ภายใน 31 สิงหาคม 2568 ผ่านศูนย์บริการสมาชิกบัตร หรือ Helpline 02-714-5155 (จันทร์–ศุกร์ 08.30–17.30 น.)

2.มาตรการปรับโครงสร้างหนี้ โดยปรับลดยอดผ่อนชำระรายเดือนผ่านการขยายระยะเวลาผ่อน ทั้งนี้ ไม่รวมลูกค้าที่เข้าร่วมมาตรการช่วยเหลืออื่นอยู่แล้ว โดยสามารถแจ้งความประสงค์ผ่านช่องทางเดียวกัน และจะมีการพิจารณารายกรณีตามเงื่อนไขของบริษัท

ทั้งนี้ ธนาคารกรุงศรียืนยันพร้อมเคียงข้างลูกค้าในทุกสถานการณ์ เพื่อบรรเทาภาระทางการเงินและสนับสนุนให้สามารถฟื้นฟูได้อย่างยั่งยืน