TAN โกยรายได้ 6 เดือนทะลุ 900 ล้านบาท รับธุรกิจต่างประเทศโต 143%

TAN ประกาศผลงานครึ่งปี 68 รายได้รวม 902 ล้านบาท เติบโต 6% ชี้ทิศทางธุรกิจต่างประเทศโตโดดเด่นใน Q2 พร้อมเดินหน้ากลยุทธ์ Digital Transformation สร้างการเติบโตที่ยั่งยืน


นายธนพงษ์ จิราพาณิชกุล ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท ธนจิรา รีเทล คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ TAN เปิดเผยว่า แม้ครึ่งปีแรกต้องเผชิญความท้าทายจากภาวะเศรษฐกิจ เหตุการณ์แผ่นดินไหว และจำนวนนักท่องเที่ยวที่ลดลงต่อเนื่อง แต่รายได้รวมยังเติบโตจากการขยายตลาดต่างประเทศ โดยเฉพาะในจีน ซึ่งเป็นทิศทางสำคัญที่ช่วยเสริมความแข็งแกร่งระยะยาว ครึ่งปีแรกทำรายได้รวมสุทธิ 902.4 ล้านบาท เติบโต 6% มีกำไรสุทธิ 27.8 ล้านบาท ลดลง 65% จากปีก่อน สาเหตุหลักมาจากค่าใช้จ่ายของกิจการในต่างประเทศเพิ่มขึ้น สำหรับไตรมาส 2/2568 บริษัทมีรายได้รวมสุทธิ 421.1 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 8% จากปีก่อน โดยรายได้จากต่างประเทศเติบโตโดดเด่น 143% แตะ 51 ล้านบาท จากการเปิดบริษัทย่อยในจีน และขยายช่องทางจำหน่ายแบรนด์ HARNN กว่า 370 จุดขายใน 10 มณฑล รวมถึงเปิด HARNN Flagship Retail Store แห่งแรกในหางโจว และขยายยอดขายผ่านแพลตฟอร์มออนไลน์หลัก อาทิ T-Mall, Xiao Hong Shu, Douyin และ JD.com

สำหรับโครงสร้างรายได้ครึ่งปีแรก 2568 เทียบกับปีก่อน แบ่งเป็น กลุ่ม Lifestyle สัดส่วนลดลงจาก 54% เหลือ 50% โดยแบรนด์ Pandora มีรายได้ลดลงจากจำนวนสินค้าใหม่ต่อคอลเลกชันลดลง ขณะที่ไตรมาส 2 มีผลการดำเนินงานดีขึ้นหลังปรับโครงสร้างภายใน ส่วนแบรนด์ Cath Kidston มีพัฒนาการดีขึ้น แม้รายได้ลดลงเพียงเล็กน้อยจากการปิดสาขาที่ไม่ทำกำไร กลุ่ม Fashion เพิ่มสัดส่วนจาก 22% เป็น 25% จากแบรนด์ Marimekko และ GANNI ที่เติบโตโดดเด่น รวมถึงการเพิ่มแบรนด์ United Arrows และ MM6 กลุ่ม Beauty & Wellness สัดส่วนคงที่ที่ 17% รายได้เพิ่มขึ้น 7% จากยอดขายต่างประเทศ สอดคล้องกับกลยุทธ์สร้างแบรนด์ให้เป็นที่นิยมในและต่างประเทศ พร้อมขยายช่องทางจำหน่ายโดยไม่พึ่งพิงนักท่องเที่ยวเป็นหลัก กลุ่ม Food & Beverage เพิ่มขึ้นเล็กน้อยจาก 6.6% เป็น 7.4% จากการเพิ่มสาขาร้านอาหารในกลุ่ม Gordon Ramsay โดย Bread Street Kitchen & Bar at ICONSIAM เปิดเพิ่มอีก 1 สาขา

ทั้งนี้ เพื่อตอบรับความท้าทายทางเศรษฐกิจ บริษัทได้ปรับกลยุทธ์และแผนลงทุน โดยเน้นเพิ่มประสิทธิภาพและบริหารการลงทุนอย่างรอบคอบ ประกอบด้วย 1) Strategic Investment ปรับลดงบลงทุนประจำปี เน้นโครงการที่ให้ผลตอบแทนรวดเร็วและเป็นไปตามแผน 2) Cost Optimization ควบคุมค่าใช้จ่ายทุกแผนกอย่างเข้มงวด โดยเฉพาะธุรกิจใหม่ในกลุ่ม Food & Beverage และลดการขาดทุนจากกิจการที่ไม่ทำกำไร เช่น การทยอยปิดสาขา Cath Kidston และกลุ่ม Café 3) Digital Transformation เตรียมเดินหน้ากลยุทธ์ดิจิทัลเต็มรูปแบบในไตรมาส 3 ด้วยการนำระบบ Line CRM with Rewards Program, Real Time Marketing Automation with AI และ Business Intelligence มาใช้ เพื่อเชื่อมโยงธุรกิจ เพิ่มยอดขาย และสร้างกำไรยั่งยืน

นายธนพงษ์ กล่าวทิ้งท้ายว่า บริษัทมั่นใจว่าการเดินหน้ากลยุทธ์เชิงรุก ทั้งการขยายตลาดและเพิ่มยอดขายจากต่างประเทศ การบริหารต้นทุนอย่างมีวินัย การวางแผนการตลาดอย่างรอบคอบ และการใช้เทคโนโลยีดิจิทัลและข้อมูลเชิงลึก (Data-Driven Insights) จะช่วยให้ผลการดำเนินงานในปี 2568 ดีขึ้น และสร้างการเติบโตที่ยั่งยืน พร้อมรับมือความท้าทายในโลกธุรกิจที่เปลี่ยนแปลงรวดเร็ว

Back to top button