CPAXT มั่นใจครึ่งหลังปี 68 ผลงานโตต่อ ลุยขยายร้านค้าส่ง-ปลีก เสริมแกร่งธุรกิจ

CPAXT มั่นใจครึ่งหลังปี 68 ผลงานโตต่อจากครึ่งปีแรก เดินหน้าขยายสาขาค้าส่ง-ค้าปลีก, Omni Channel พร้อมขยายสินค้า Private Label และพัฒนาฐานลูกค้าใหม่ เสริมแกร่งธุรกิจ


นางสาวภัทรวัลล์ สุกปลั่ง ผู้อำนวยการ ฝ่ายนักลงทุนสัมพันธ์ บริษัท ซีพี แอ็กซ์ตร้า จำกัด (มหาชน) หรือ CPAXT เปิดเผยข้อมูลภาพรวมธุรกิจของบริษัทผ่านงาน (Opportunity Day) จัดโดย ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) เมื่อวันที่ 15 สิงหาคม 2568 ระบุว่า ผลการดำเนินงานไตรมาส 2/2568 บริษัทมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 2,286.28 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.07% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อนอยู่ที่ 2,175.96 ล้านบาท ซึ่งเป็นผลมาจากปัจจัยสนับสนุนรายได้จากการขายสินค้า 123,892 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 2.10% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันปีก่อน อยู่ที่ 121,374 ล้านบาท จากกลุ่มธุรกิจค้าส่ง กลุ่มธุรกิจค้าปลีกและรายได้ค่าเช่าและรายได้จากการให้บริการศูนย์การค้าเพิ่มขึ้น

ขณะที่ ผลงวดดำเนินการงวด 6 เดือนแรกปี 2568 บริษัทมีกำไรสุทธิ 4,929.46 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 5.84% เมื่อเทียบกับงวดเดียวของปีก่อน มีกำไรสุทธิ 4,657.31 ล้านบาท หลักๆ มาจากรายได้การขายสินค้า 248,641 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 6,085 ล้านบาท หรือ 2.50%

ส่วนแนวโน้มธุรกิจในครึ่งหลังปี 2568 บริษัทมองว่ายอดขายและอัตรากำไรคาดการณ์ว่าจะดีขึ้นเมื่อเทียบกับครึ่งปีแรก โดยมีปัจจัยสนับสนุนหลายด้าน อาทิ การเริ่มจำหน่ายสินค้าที่มีมาร์จิ้นสูงขึ้น โดยเฉพาะกลุ่มอาหารพร้อมทาน อีกทั้ง CPAXT ยังคงมุ่งเน้นการขยายการเติบโตอย่างต่อเนื่องในทุกมิติ เริ่มตั้งแต่การขยาย เครือข่ายสาขา ทั้งในรูปแบบค้าส่งและค้าปลีกครอบคลุมทำเลศักยภาพทั่วประเทศ

โดยครึ่งหลังปี 2568 CPAXT มีแผนขยายสาขาเพิ่มเติมแบ่งตามประเทศธุรกิจ ได้แก่ 1.) ธุรกิจค้าส่ง จะเปิดเพิ่มอีก 2 สาขา โดย 1 ใน 2 สาขาตั้งอยู่ในต่างประเทศ, 2.) กลุ่มธุรกิจค้าปลีก เปิดสาขาขนาดใหญ่เพิ่มอีก 2 แห่ง, 3.) ซูเปอร์มาร์เก็ต ขยายอีก 2 สาขาทั้งในภาคเหนือและกรุงเทพฯ ขณะที่ 4.) Lotus’s Go Fresh ยังคงมุ่งมั่นขยายสาขาขนาดเล็กเพิ่มเติมอีกประมาณ 157 สาขา ทั้งหมดนี้สะท้อนถึงแผนการขยายธุรกิจของ CPAXT

นอกจากนี้แล้ว บริษัทยังเดินหน้าขยายการขายนอกร้านหรือที่เรียกว่า Omni Channel โดยตั้งเป้าที่จะเพิ่มสัดส่วนยอดขายจาก Omni Channel ให้เติบโตต่อเนื่อง พร้อมใช้สาขาเป็นจุดศูนย์กระจายสินค้า (Fulfillment Center) เพื่อให้สามารถส่งถึงมือลูกค้าได้รวดเร็วขึ้น พร้อมบริการ On-demand, Same Day และ Next Day Delivery

ในส่วนของการพัฒนา Shopping Mall หรือ Smart Community Center นั้นบริษัทมุ่งเน้นการปรับสินค้าที่มีอยู่ในทำเลศักยภาพเพื่อเพิ่มพื้นที่เช่าเชิงพาณิชย์ ดึงดูดพันธมิตรใหม่ และเพิ่มจำนวนผู้เข้ามาใช้บริการอย่างต่อเนื่อง พร้อมกับการนำเสนอสินค้า คุณภาพดี ในราคาคุ้มค่า

ไม่เพียงเท่านั้น บริษัทยังเน้นสินค้าที่เป็นทางเลือกดีต่อสุขภาพและใส่ใจสิ่งแวดล้อม และเพิ่มสัดส่วนสินค้าประเภท Private Label, สินค้าแบรนด์ที่มีราคาคุ้มค่าซึ่งจัดจำหน่ายเฉพาะที่ แม็คโคร และ โลตัส เท่านั้น ขณะเดียวกันก็พร้อมพัฒนา นวัตกรรมผลิตภัณฑ์ โดยเฉพาะสินค้าอาหารพร้อมปรุง (Ready to Cook) และพร้อมทาน (Ready to Eat) ให้มากขึ้น

สำหรับเป้าหมายการขยายสินค้า Private Label ปัจจุบันสัดส่วนยอดขายของ Private Label อยู่ที่ 16% ของยอดขายรวม (to mix) โดย Aspiration ของบริษัทในอีก 5 ปีข้างหน้า คือ ต้องการให้สัดส่วนของ Private Label เพิ่มขึ้นเป็นประมาณ 40% ในขณะเดียวกัน บริษัทก็พยายามดึงดูดลูกค้าใหม่ ซึ่งจากข้อมูลล่าสุด พบว่าจำนวนลูกค้าลงทะเบียน (registered customers) เพิ่มขึ้นถึง 3.2 ล้านคนใน 6 เดือนแรกปี 2568 นอกจากนี้ ตัวเลขรีวิวของร้านโลตัสเติบโตอย่างมีนัยสำคัญ

พร้อมกันนี้ บริษัทเองก็มีแผนขยายฐานลูกค้า เพิ่มการมีส่วนร่วมของสมาชิกอย่างต่อเนื่อง รวมถึงให้ความสำคัญกับการเจาะกลุ่มลูกค้าใหม่ ๆ เช่น กลุ่มลูกค้า HORECA และกลุ่มลูกค้า User ควบคู่กับการพัฒนาศูนย์การค้าให้มีความน่าสนใจและดึงดูดมากยิ่งขึ้น

“มองหาโอกาสในการขยายการเติบโตในระดับภูมิภาค โดยมี Investment Criteria ที่ชัดเจนสำหรับการลงทุนในประเทศที่มีการเติบโตของ GDP โดดเด่น อีกทั้งการดำเนินธุรกิจในประเทศนั้นๆ ต้องสามารถ Self-financing ได้ บริษัทตั้งอัตราผลตอบแทนที่คาดหวังจากการลงทุนให้เหมาะสม

สุดท้ายสำหรับประเด็นที่เกี่ยวข้องกับ ประเทศกัมพูชา เรื่องผลกระทบที่อาจเกิดขึ้นกับธุรกิจในต่างประเทศนั้น ต้องเรียนให้ทุกท่านทราบว่า CPAXT ดำเนินธุรกิจในกัมพูชามาเป็นเวลานาน มีพาร์ทเนอร์ที่มั่นคง ปัจจุบันมีทั้งหมด 3 สาขา ได้แก่ 2 สาขาในพนมเปญ และ 1 สาขาในเซียมเรียบ ทุกสาขายังคงให้บริการตามปกติ และในเดือนกรกฎาคมที่ผ่านมา เติบโตประมาณ Single Digit Growth ทั้งนี้ รายได้ที่เกิดจากกัมพูชามีสัดส่วนน้อย เมื่อเทียบกับรายได้รวมของบริษัท อยู่ต่ำกว่า 1%

Company Snapshot

Back to top button