ครม. ไฟเขียวร่าง พ.ร.บ. NaCGA พลิกกลไกค้ำประกัน หนุน SMEs กู้เงินคล่องกว่าเดิม

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (19 ส.ค.68) นายเผ่าภูมิ โรจนสกุล รัฐมนตรีช่วยว่าการกระทรวงการคลัง เปิดเผยว่า วันนี้ที่ประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) มีมติเห็นชอบ ร่างพระราชบัญญัติ (พ.ร.บ.) สถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ พ.ศ. …. เพื่อก่อตั้งสถาบันค้ำประกันเครดิตแห่งชาติ (NaCGA) ให้เป็นกลไกสนับสนุนการเข้าถึงแหล่งเงินทุนของ วิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs)

ทั้งนี้ ร่างพ.ร.บ.สถาบันค้ำประกันเครดิตฯ มี 8 หมวด 132 มาตรา ขั้นตอนหลังผ่านครม. จะส่งให้สำนักงานคณะกรรมการกฤษฎีกาตรวจร่างฯ ต่อไป

นายเผ่าภูมิ อธิบายว่า NaCGA เป็นหน่วยงานของรัฐ แต่ไม่ใช่ส่วนราชการและรัฐวิสาหกิจ ทำหน้าที่ประเมินความเสี่ยงและค้ำประกันเครดิตให้ประชาชนที่ขอสินเชื่อกับสถาบันการเงินพาณิชย์ สถาบันการเงินเฉพาะกิจของรัฐ และ Non-Bank

กระบวนการทำงานเริ่มจากผู้ที่ต้องการขอสินเชื่อติดต่อ NaCGA เพื่อให้พิจารณาค้ำประกันเครดิต ก่อนนำไปยื่นกับสถาบันการเงิน โดย NaCGA จะเป็นผู้ประเมินความเสี่ยงด้านเครดิตของผู้ประกอบการ ทั้งการประเมินความเสี่ยงรายบุคคล และการค้ำประกันตามระดับความเสี่ยง (Risk-Based Pricing) ผ่านฐานข้อมูลและแบบจำลองความเสี่ยงด้านเครดิตที่พัฒนาจากข้อมูลทางการเงินและข้อมูลทางเลือก

เมื่อผ่านการพิจารณา NaCGA จะออก “ใบค้ำประกันเครดิต” ให้กับผู้ขอสินเชื่อ โดยผู้ขอสินเชื่อจ่ายค่าธรรมเนียมเพียงเล็กน้อยตามระดับความเสี่ยง เนื่องจากมีการสนับสนุนจากภาครัฐและสถาบันการเงินที่ร่วมจ่าย จากนั้นผู้ขอสินเชื่อนำใบค้ำประกันเครดิตไปยื่นกับสถาบันการเงิน ซึ่งจะปล่อยสินเชื่อได้ง่ายขึ้นเพราะมี NaCGA รับประกันความเสี่ยงแทนบางส่วนหรือทั้งหมด ทั้งนี้ หากผู้ขอสินเชื่อไม่สามารถชำระหนี้ได้ NaCGA จะเป็นผู้รับความเสี่ยงกับสถาบันการเงินตามเงื่อนไขที่กำหนด

นอกจากนี้ ฐานข้อมูลของ NaCGA จะถูกยกระดับเป็นโครงสร้างพื้นฐานด้านข้อมูลที่สำคัญของประเทศ โดยร่างกฎหมายกำหนดให้ทั้งหน่วยงานรัฐและภาคเอกชนต้องนำส่งข้อมูล เพื่อใช้ในการจัดทำแบบจำลองเครดิตสำหรับ NaCGA ทำให้โครงสร้างพื้นฐานดังกล่าวกลายเป็นแหล่งรวบรวมข้อมูลธุรกิจภายในประเทศที่สำคัญ

สำหรับแหล่งทุนของ NaCGA มาจากหลายส่วน ได้แก่ เงินอุดหนุนจากรัฐบาล ค่าธรรมเนียมการค้ำประกันที่เก็บจากผู้ประกอบการ และเงินสมทบจากธนาคารพาณิชย์รวมถึงสถาบันการเงินเฉพาะกิจ ซึ่งจัดสรรตามสัดส่วนที่กำหนดไว้ ทำให้การดำเนินงานไม่ได้พึ่งพางบประมาณภาครัฐเพียงอย่างเดียว

นายเผ่าภูมิ กล่าวด้วยว่า กระทรวงการคลังให้ความสำคัญต่อการเข้าถึงแหล่งทุนและการเสริมสร้างขีดความสามารถของภาคธุรกิจ โดยเฉพาะวิสาหกิจขนาดกลางและขนาดย่อม (SMEs) การจัดตั้ง NaCGA จึงถือเป็นการสร้างระบบนิเวศใหม่ด้านการระดมทุนของภาคธุรกิจไทย ซึ่งจะช่วยส่งเสริมและพัฒนาความสามารถในการแข่งขันของภาคเอกชน