TPCH ลุยครึ่งปีหลัง COD โซลาร์ฟาร์ม สปป.ลาว–เร่งสร้างโรงไฟฟ้าขยะ 4 แห่ง

TPCH กางแผนธุรกิจครึ่งปีหลัง 68 เร่งก่อสร้างโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานแสงอาทิตย์ใน สปป.ลาว กำลังการผลิต 100 MW คาด COD ภายในไตรมาส 4/68 ตามนัด พร้อมเดินหน้าก่อสร้างโรงไฟฟ้าขยะชุมชน SPNS และ SPNK ควบคู่กับการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะรูปแบบ VSPP อีก 4 โครงการ ผลักดันผลงานเติบโตอย่างมั่นคง


นางกนกทิพย์ จันทร์พลังศรี ประธานคณะกรรมการบริหาร บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) หรือ TPCH ประกอบธุรกิจหลักโดยการถือหุ้นในบริษัทอื่น (Holding Company) ที่ประกอบธุรกิจผลิตและจำหน่ายไฟฟ้าจากพลังงานหมุนเวียน เปิดเผยว่า แผนการดำเนินธุรกิจครึ่งหลังของปี 2568 บริษัทฯ เร่งพัฒนาโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ ในสาธารณรัฐประชาธิปไตยประชาชนลาว (สปป.ลาว) ซึ่ง TPCH เข้าร่วมลงทุนกับ บริษัท แม่โขง พาวเวอร์ จํากัด (MKP) ในสัดส่วน 40% ประกอบธุรกิจผลิต และจําหน่ายกระแสไฟฟ้าจากพลังงานแสงอาทิตย์ใน สปป.ลาว ได้ลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้าจำนวน 100 เมกะวัตต์ กับรัฐวิสาหกิจไฟฟ้าลาว (EDL) เรียบร้อยแล้ว ขณะนี้อยู่ระหว่างการก่อสร้าง คาดว่า จะสามารถ COD ได้ภายในเดือนธันวาคม 2568

“TPCH เร่งก่อสร้างโครงการพลังงานแสงอาทิตย์ใน สปป.ลาว เพื่อให้ทันกำหนดการ COD ซึ่งโครงการนี้จะช่วยเสริมสร้างศักยภาพของบริษัทฯ ในตลาดพลังงานทดแทนของ สปป.ลาว และยังสามารถขยายโอกาสสร้างรายได้จากตลาดต่างประเทศ ซึ่งสอดคล้องกับแนวทางการเติบโตของพลังงานสะอาดในภูมิภาคและกลยุทธ์ระยะยาวของบริษัทฯ” นางกนกทิพย์ กล่าว

ด้านนายเชิดศักดิ์ วัฒนวิจิตรกุล กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ทีพีซี เพาเวอร์ โฮลดิ้ง จำกัด (มหาชน) (TPCH) กล่าวว่า สำหรับการพัฒนาโครงการพลังงานทดแทนในประเทศ ทั้งการพัฒนาโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ ประกอบด้วย โรงไฟฟ้าขยะชุมชน สยาม พาวเวอร์ หนองสาหร่าย (SPNS) กำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ และโรงไฟฟ้าขยะชุมชน สยาม พาวเวอร์ นากลาง (SPNK) ขนาดกำลังการผลิตติดตั้ง 9.9 เมกะวัตต์ คาดว่า จะเริ่มก่อสร้างในไตรมาส 3/2568 และอยู่ระหว่างการพัฒนาโครงการโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ เพิ่ม 4 โครงการ ประกอบด้วย โครงการ SP4-SP7  กำลังการผลิตเสนอขายรวม 35.6 เมกะวัตต์ ซึ่งเป็นโครงการพลังงานขยะเพื่อชุมชนในรูปแบบ VSPP (Very Small Power Producer) ในส่วนของโรงไฟฟ้าพลังงานขยะ สยาม พาวเวอร์ นนทบุรี (SPNT) กำลังการผลิตติดตั้ง 9.5 เมกะวัตต์ มีการดำเนินการปรับปรุงแก้ไขเครื่องจักรให้สามารถเดินเครื่องให้มีประสิทธิภาพเพิ่มขึ้น

ขณะที่ โรงไฟฟ้าพลังงานชีวมวล จำนวน 7 แห่ง ประกอบด้วย CRB, MWE, MGP, TSG, PGP, SGP, PTG มีกำลังการผลิตติดตั้ง 80.7 เมกะวัตต์ มุ่งเน้นการพัฒนาประสิทธิภาพการเดินเครื่องให้มีความเสถียรมากขึ้น ลดการใช้เชื้อเพลิง และควบคุมต้นทุนในระยะยาว ควบคู่กับการแสวงหาแหล่งเชื้อเพลิงใหม่ และติดตามนโยบายการรับซื้อไฟฟ้าพลังงานหมุนเวียนจากภาครัฐอย่างใกล้ชิด เพื่อปรับกลยุทธ์ให้เหมาะสมในอนาคต

ในด้าน ESG (Environmental, Social, and Governance) บริษัทฯ นําข้อมูลการเก็บ Carbon Footprint จากปีก่อนมาวิเคราะห์และพัฒนานโยบายลดการปล่อยคาร์บอนให้สอดคล้องกับเป้าหมายด้านความยั่งยืน พร้อมส่งเสริมการสร้างงานและพัฒนาชุมชนรอบโรงไฟฟ้า เพื่อการเติบโตที่เป็นมิตรต่อสิ่งแวดล้อมในระยะยาว

อนึ่ง ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 (สิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2568) มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,181.2 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 162.3 ล้านบาท ขณะที่ งวดไตรมาส 2/2568 บริษัทฯ มีรายได้รวมอยู่ที่ 556.74 ล้านบาท มีกำไรสุทธิ 57.96 ล้านบาท

Back to top button