World ย้ำ! เทคโนโลยี “สแกนม่านตา” ปลอดภัย-ไม่เก็บข้อมูลส่วนบุคคล

World ออกแถลงชี้แจงกรณีเข้าใจผิดเรื่องสแกนม่านตา ยืนยันไม่เก็บหรือขายข้อมูลส่วนบุคคล ระบบใช้รหัส Iris Code ตรวจสอบความเป็นมนุษย์ โปร่งใส เปิดซอร์ส และมีพันธมิตรหลากหลายเตรียมนำไปใช้งานจริง


จากกระแสสังคมและความเข้าใจผิดเกี่ยวกับการสแกนม่านตาที่เกิดขึ้นในช่วงที่ผ่านมา World ได้ออกแถลงชี้แจงข้อเท็จจริง พร้อมย้ำถึงมาตรการด้านความปลอดภัยของเทคโนโลยี โดยโครงการนี้ก่อตั้งขึ้นโดย Sam Altman ผู้ก่อตั้ง ChatGPT และ Alex Blania มีเป้าหมายเพื่อช่วยผู้ใช้งานป้องกันการฉ้อโกงทางดิจิทัล และแยกแยะระหว่างมนุษย์จริงกับบอทหรือปัญญาประดิษฐ์บนโลกออนไลน์

ทั้งนี้ World ยืนยันว่า ระบบยืนยันความเป็นมนุษย์ดังกล่าวไม่ได้รวบรวมหรือจัดเก็บข้อมูลส่วนบุคคล เช่น ชื่อ-นามสกุล ที่อยู่ หรือเลขบัตรประชาชน รวมถึงไม่มีการซื้อ เก็บ หรือขายข้อมูลชีวมิติ โดยกระบวนการยืนยัน Orb จะเปลี่ยนภาพม่านตาเป็นรหัสตัวเลขที่เรียกว่า “Iris Code” ซึ่งไม่สามารถย้อนกลับไปเป็นภาพต้นฉบับได้ และข้อมูลจะถูกบันทึกเฉพาะในอุปกรณ์ของผู้ใช้งาน ก่อนที่ Orb จะลบภาพต้นฉบับออกทั้งหมดทันที

World ยังเน้นย้ำถึงความโปร่งใสและมาตรฐานด้านความปลอดภัย ด้วยการพัฒนาระบบในรูปแบบ Open Source และ Decentralized ทั้งฮาร์ดแวร์และซอฟต์แวร์ พร้อมเปิดเผยซอร์สโค้ดให้ตรวจสอบได้ อีกทั้งยังผ่านการตรวจสอบความปลอดภัยจากบริษัทผู้เชี่ยวชาญระดับโลก เพื่อสร้างความมั่นใจแก่ผู้ใช้งาน

ทั้งนี้ ในส่วนของสิทธิประโยชน์ ผู้ที่ผ่านการยืนยันความเป็นมนุษย์สามารถรับโทเคน Worldcoin ซึ่งสามารถแปลงเป็นเงินบาทได้เฉพาะผ่านผู้ประกอบธุรกิจสินทรัพย์ดิจิทัลที่ได้รับใบอนุญาตตามกฎหมาย โดยไม่มีการแจกเงินสดตามที่เข้าใจผิดแต่อย่างใด

โดยนับตั้งแต่เปิดตัวในประเทศไทยเมื่อเดือนมีนาคม 2568 เทคโนโลยีของ World ได้เริ่มถูกนำไปใช้งานโดยพันธมิตรหลากหลาย เช่น Pantip.com เพื่อยกระดับความน่าเชื่อถือของการถาม-ตอบออนไลน์ แอป Whoscall (Gogolook) เพื่อป้องกันมิจฉาชีพ Eventpop สำหรับป้องกันบอทกดบัตรคอนเสิร์ตและงานต่าง ๆ รวมถึงเกม Ragnarok (Zentry) ที่ช่วยลดการโกงโดยใช้บอท และในอนาคตยังมีบริการเพิ่มเติมอีกหลายด้านที่อยู่ระหว่างการพัฒนา เพื่อทำให้ World ID กลายเป็นเครื่องมือสำคัญในชีวิตประจำวันของคนไทยมากยิ่งขึ้น

อย่างไรก็ตาม World ยืนยันชัดเจนว่า ไม่มีนโยบายขอข้อมูลส่วนบุคคล เช่น หมายเลขบัตรประชาชน หมายเลขโทรศัพท์ ข้อมูลบัตรเครดิต หรือรหัส OTP และไม่มีการว่าจ้างบุคคลที่สามเพื่อเก็บข้อมูลดังกล่าว พร้อมขอให้ประชาชนระมัดระวังกลุ่มมิจฉาชีพที่อาจแอบอ้างชื่อ World ทั้งนี้ ผู้สนใจสามารถศึกษาข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ Facebook official page: World Thailand

Back to top button