
8 ปีจากสตาร์ทอัพสู่ IPO “TURBO” กับการขับเคลื่อนธุรกิจครั้งสำคัญในตลาดทุน
TURBO ก้าวสู่ตลาดหุ้นไทยด้วย IPO ครั้งแรก มุ่งสร้างการเข้าถึงสินเชื่อรายย่อยคุณภาพ ควบคู่การเติบโตยั่งยืนด้วยเทคโนโลยีและเครือข่ายสาขา
บริษัท เงินเทอร์โบ จำกัด (มหาชน) หรือ TURBO ว่าที่ IPO ตัวแรกของ SET ในปี 2025 เตรียมเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปจำนวนไม่เกิน 537 ล้านหุ้น หรือคิดเป็นไม่เกิน 20.1% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลังการออกหุ้นครั้งนี้ โดยมีธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) เป็นที่ปรึกษาทางการเงิน ซึ่งการเข้า IPO ครั้งนี้สะท้อนถึงความมั่นใจจากผลการดำเนินงานที่ผ่านมาและ Track Record การเติบโตอย่างก้าวกระโดด ที่ถูกพิสูจน์มาแล้วในหลายวิกฤต
โดยการเสนอขายหุ้น IPO ในครั้งนี้แบ่งเป็น 2 ส่วน ได้แก่ การเสนอขายหุ้นสามัญเพิ่มทุนของบริษัทฯ จำนวนไม่เกิน 447.78 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 16.8% ของจำนวนหุ้นสามัญทั้งหมดหลังการเสนอขาย และการเสนอขายหุ้นสามัญเดิมโดยบริษัท กสิกร วิชั่น จำกัด จำนวนไม่เกิน 89.22 ล้านหุ้น คิดเป็นไม่เกิน 3.3% ของจำนวนหุ้นทั้งหมดหลังการเสนอขาย ซึ่งการมีกลุ่มธนาคารกสิกรไทยเป็นหนึ่งในผู้ถือหุ้นนั้นแสดงถึงความน่าเชื่อถือและการได้รับการสนับสนุนจากสถาบันการเงินชั้นนำ ซึ่งจะช่วยเสริมศักยภาพการเติบโตในระยะยาว
สำหรับความโดดเด่นของ TURBO อยู่ที่การบริหารความเสี่ยงอย่างมีระบบ และการใช้เทคโนโลยีเสริมความเร็วและแม่นยำ ผ่านทีมเทคโนโลยีและข้อมูลเกือบ 100 คน คิดเป็นสัดส่วนสูงถึง 32.3% ของจำนวนพนักงานสำนักงานใหญ่ทั้งหมด พร้อมระบบปฏิบัติการหลักสำหรับบริหารจัดการสินเชื่ออย่างครบวงจร ตั้งแต่การพิจารณาอนุมัติ การรับชำระ และการติดตามสินเชื่อ ทำให้สามารถรักษาค่าใช้จ่ายในการขายและบริหารต่อสาขาอยู่ที่ 1.4 ล้านบาท ซึ่งต่ำกว่าค่าเฉลี่ยของกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม¹ ที่ 2.3 ล้านบาท สำหรับงวดหกเดือน ปี 2568
ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 บริษัทฯ มีเครือข่ายสาขากว่า 996 แห่ง กระจายอยู่ใน 54 จังหวัดทั่วประเทศ โดยเป็นผู้เล่นรายเดียวในอุตสาหกรรมที่เปิดให้บริการ 7 วันต่อสัปดาห์ เพื่อรองรับความต้องการของลูกค้า ด้วยการออกแบบเงื่อนไขที่ไม่ซับซ้อนและเข้าใจง่าย จึงช่วยสร้างความประทับใจจนนำไปสู่การแนะนำบอกต่อสูงถึง 20% ในช่วงครึ่งปีแรกของปี 2568 ปัจจุบันบริษัทฯ แบ่งการให้บริการเป็น 2 กลุ่มธุรกิจหลัก คือ ธุรกิจสินเชื่อ ซึ่งประกอบด้วย สินเชื่อจำนำทะเบียนรถ สินเชื่อโฉนดที่ดิน และสินเชื่อนาโนไฟแนนซ์ และธุรกิจนายหน้าประกันภัย ซึ่งประกอบไปด้วยประกันวินาศภัยและประกันชีวิต
นายสุธัช เรืองสุทธิภาพ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เงินเทอร์โบ จำกัด (มหาชน) เปิดเผยว่า เงินเทอร์โบเป็นผู้ให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้ารายย่อยที่ไม่สามารถเข้าถึงบริการทางการเงิน หรือสามารถเข้าถึงแต่ได้รับบริการไม่ครบถ้วน ภายใต้ความต้องการที่จะเห็นผู้คนในทุกชุมชนสามารถเข้าถึงแหล่งเงินทุนและบริการทางการเงินที่มีความน่าเชื่อถือและสมเหตุสมผล แม้เศรษฐกิจในช่วงที่ผ่านมาจะมีความท้าทาย แต่กลุ่มบริษัทฯ ก็สามารถเติบโตได้อย่างก้าวกระโดดจากการให้ความสำคัญสูงสุดกับคุณภาพการให้บริการ
การพัฒนาองค์กรจาก Start-up ที่มีพนักงานในวันแรกเพียง 4 คน สู่องค์กรหลักพันคนด้วยวิสัยทัศน์ที่แตกต่างนี้เอง ทำให้ TURBO โดดเด่นจากคู่แข่งด้วยความเข้าใจในตลาดและความสามารถในการปรับกลยุทธ์ได้แม้ยามเศรษฐกิจผันผวน โดยมีพอร์ตสินเชื่อที่ขยายตัวจาก 3,282.0 ล้านบาทในปี 2563 เป็น 11,262.9 ล้านบาท ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2568 หรือเติบโตเฉลี่ยต่อปีกว่า 31.5%
สำหรับผลการดำเนินงานงวด 6 เดือนแรกของปี 2568 บริษัทฯ ทำกำไรสุทธิได้กว่า 235.9 ล้านบาท หรือเติบโตสูงถึง 285.8% จากช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยบริษัทฯ ยังมี Net Interest Margin (NIM) สูงสุดในอุตสาหกรรมที่ 19.8% เทียบกับค่าเฉลี่ยของกลุ่มผู้ประกอบการในอุตสาหกรรม¹ ที่ 15.1%
โดยการบริหารความเสี่ยงถือเป็นจุดแข็งสำคัญของ TURBO ซึ่งมีการนำเทคโนโลยีมาสนับสนุน ตั้งแต่การปล่อยสินเชื่อ การติดตามทวงถามหนี้ และการบริหารความเสี่ยง เพื่อลดข้อผิดพลาดและเพิ่มความแม่นยำ พร้อมการติดตามข้อมูลให้เป็นปัจจุบันเพื่อปรับกลยุทธ์ได้อย่างทันท่วงที ซึ่งสะท้อนจากความสามารถในการควบคุมความเสี่ยงผ่านอัตราส่วนรายได้รวมหักค่าใช้จ่ายผลขาดทุนด้านเครดิตที่คาดว่าจะเกิดขึ้นต่อลูกหนี้เงินให้กู้ยืมสุทธิเฉลี่ย ซึ่งอยู่ที่ระดับสูงสุดในอุตสาหกรรมที่ 21.8%
นายคมกฤต รักษากุลเกียรติ หัวหน้าวาณิชธนกิจ ธนาคารทิสโก้ จำกัด (มหาชน) ในฐานะที่ปรึกษาทางการเงิน กล่าวว่า หลังจากเงินเทอร์โบได้ยื่นแบบไฟลิ่งต่อสำนักงาน ก.ล.ต. เพื่อขอเสนอขายหุ้นสามัญต่อประชาชนทั่วไปเป็นครั้งแรก ปัจจุบันอยู่ระหว่างเตรียมความพร้อมเพื่อเสนอขายหุ้น IPO โดยมีแผนนำเงินไปใช้ขยายธุรกิจให้บริการการเงิน ชำระคืนเงินกู้ยืมจากธนาคารพาณิชย์ และใช้เป็นเงินทุนหมุนเวียนในการดำเนินธุรกิจ มุ่งสู่ผู้ให้บริการทางการเงินแก่กลุ่มลูกค้ารายย่อยชั้นนำระดับประเทศ
หมายเหตุ: ¹กลุ่มผู้ให้บริการในอุตสาหกรรมเดียวกันที่จดทะเบียนในตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย
แม้ TURBO จะมีผลงานโดดเด่นในปัจจุบัน แต่บริษัทฯ ก็ยังมีโอกาสเติบโตได้อีกจากการเติบโตพอร์ตสินเชื่อของสาขาปัจจุบัน ซึ่งมีอายุเฉลี่ยเพียง 4.1 ปี โดย มีสัดส่วนสาขาที่มีอายุน้อยกว่า 5 ปี ถึง 65.6% ของจำนวนสาขาที่เปิดให้บริการในปัจจุบัน และจากการขยายพื้นที่ให้บริการจากปัจจุบันที่ครอบคลุมพื้นที่ให้บริการเพียง 54 จังหวัด จาก 77 จังหวัดทั่วประเทศไทย นอกจากนี้ การมีระบบเทคโนโลยีที่ยืดหยุ่นและรองรับการขยายธุรกิจอย่างมีประสิทธิภาพ ทำให้ TURBO สามารถขยายสาขาโดยยังคงรักษาต้นทุนให้อยู่ในระดับต่ำได้ในระยะยาว
การเข้า IPO ของ TURBO จึงเป็นโอกาสสำหรับนักลงทุนที่มองหาหุ้นในอุตสาหกรรมการเงินที่แข็งแกร่งและมีแผนธุรกิจชัดเจน ด้วยโครงสร้างเทคโนโลยีที่ทันสมัย การบริหารความเสี่ยงอย่างมีระบบ และทีมงานคนรุ่นใหม่ที่มีวิสัยทัศน์ในการขับเคลื่อนการเข้าถึงบริการทางการเงิน ซึ่งจะเป็นการสร้างมูลค่าระยะยาวให้กับผู้ถือหุ้นอย่างยั่งยืน