
ประธานศาลฎีกา สรุปผลงาน 1 ปี เน้นยกระดับคุณภาพคำพิพากษา–ขยายโอกาสประชาชน
“ชนากานต์ ธีรเวชพลกุล” ประธานศาลฎีกา คนที่ 50 แถลงผลการดำเนินงานครบ 1 ปี ภายใต้นโยบาย “สานต่อ–เสริมสร้าง–ส่งต่ออย่างยั่งยืน” เน้นคุ้มครองสิทธิประกัน พัฒนาคุณภาพคำพิพากษา เปิดโอกาสเยาวชนเรียนรู้กระบวนการยุติธรรม และต่อยอดความร่วมมือระหว่างประเทศ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า นางชนากานต์ ธีรเวชพลกุล ประธานศาลฎีกา แถลงผลการดำเนินงานในรอบ 1 ปี หลังเข้ารับตำแหน่งตั้งแต่เดือนตุลาคม ปี 2567 ภายใต้นโยบาย “สานต่อ (Carry Forward) เสริมสร้าง (Progress Toward) ส่งต่ออย่างยั่งยืน (Sustainably Pass Onward)” ภายใต้หลักคิด “ยึดมั่นในหน้าที่ ตามวิถีตุลาการ” ที่โรงแรมโกลเด้น ทิวลิป ซอฟเฟอริน กรุงเทพฯ เมื่อวันที่ 16 กันยายน 2568
โดยสรุปประเด็นสำคัญของการดำเนินงาน ประกอบด้วย การคุ้มครองสิทธิประชาชน โดยตั้งคณะทำงานปรับปรุงระบบการขอปล่อยชั่วคราว ลดการเรียกหลักประกัน และขยายความร่วมมือกับกรมคุมประพฤติในการดูแลผู้ถูกปล่อยชั่วคราว ควบคู่กับการเปิดคลินิกให้คำปรึกษาด้านจิตสังคมในคดีอาญา 53 ศาล รวมถึงการพัฒนาโครงการฟื้นฟูผู้ต้องหาคดียาเสพติดร่วมกับสำนักงานป้องกันและปราบปรามยาเสพติด (ป.ป.ส.)
ด้าน การยกระดับคุณภาพคำพิพากษา มีการจัดอบรมผู้พิพากษาและผู้ช่วยผู้พิพากษา พัฒนาหลักสูตรการเขียนคำพิพากษา การใช้กฎหมายให้เกิดความเป็นธรรม ตลอดจนเสริมทักษะที่จำเป็นในยุคปัจจุบัน เช่น เทคโนโลยี AI และ Cybersecurity
ในส่วนของ การเสริมสร้างโอกาสให้เยาวชน ศาลฎีกาได้เปิดพื้นที่ให้เด็กและเยาวชนเข้าชมในงานวันเด็ก เช่นเดียวกับโครงการ “ค่ายต้นกล้าตุลาการ” รุ่นที่ 13 และโครงการ “เยาวชนไทยหัวใจเดียวกัน” รุ่นที่ 9 เพื่อสร้างแรงบันดาลใจและส่งเสริมความเข้าใจด้านกฎหมาย ให้เยาวชน 3 จังหวัดชายแดนใต้
ขณะเดียวกันยังมี การพัฒนาระบบเทคโนโลยีศาล โดยเปิดใช้ระบบยื่นคำฟ้องอิเล็กทรอนิกส์ (e-Filing 4.0), ระบบบริการออนไลน์ศาลยุติธรรม (CIOS) และแอปพลิเคชัน Inside COJ เพื่อเสริมประสิทธิภาพการสื่อสารในองค์กร
ในด้าน การยกระดับการให้บริการประชาชน ได้ปรับปรุงอาคารศาลให้รองรับผู้สูงอายุและผู้พิการ ศึกษาออกแบบห้องพิจารณาคดีที่เป็นมิตรกับประชาชน รวมถึงจัดทำสื่อประชาสัมพันธ์ในรูปแบบ Infographic และหนังสือ “วิถีตุลาการ” ให้ผู้พิพากษาทั่วประเทศด้วย
ส่วน ความร่วมมือระหว่างประเทศ ประเทศไทยได้เป็นเจ้าภาพการประชุมสภาประธานศาลสูงสุดอาเซียนครั้งแรก เพื่อขยายความร่วมมือด้านการพิจารณาคดีค้ามนุษย์ กฎหมายล้มละลาย และกฎหมายทรัพย์สินทางปัญญา พร้อมทั้งแลกเปลี่ยนประสบการณ์กับประเทศนอกภูมิภาค เพื่อยกระดับมาตรฐานกระบวนการยุติธรรมไทยในเวทีสากล
นางชนากานต์ กล่าวทิ้งท้ายว่า ภารกิจหน้าที่ตลอดระยะเวลา 1 ปีที่ผ่านมา มุ่งเน้นการสร้างระบบอำนวยความยุติธรรมเคียงข้างประชาชนอย่างยั่งยืนตามวิถีตุลาการ และเตรียมพร้อมสำหรับการเปลี่ยนแปลงต่างๆ ในอนาคต ที่ต้องยึดมั่นให้ทุกคน ทุกเพศ ทุกสถานะ เข้าถึงกระบวนการยุติธรรมอย่างเสมอภาค เท่าเทียม และเป็นธรรม
				
