หุ้นยุโรปปิดบวก รับแรงซื้อกลุ่ม “เฮลท์แคร์–สินค้าหรู” หนุน

ตลาดหุ้นยุโรปขยับบวกเล็กน้อย นำโดยหุ้นเฮลท์แคร์และสินค้าหรู ขณะนักลงทุนกังวลความเสี่ยงรัฐบาลสหรัฐฯ ชัตดาวน์ อาจทำให้การเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญล่าช้า


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวกเล็กน้อยในวันจันทร์ (29 ก.ย.68) นำโดยแรงซื้อหุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์และกลุ่มสินค้าหรูหรา ชดเชยแรงกดดันจากหุ้นธนาคารและพลังงาน ขณะนักลงทุนประเมินความเสี่ยงรัฐบาลสหรัฐฯ อาจปิดทำการชั่วคราว ซึ่งจะกระทบต่อการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ

ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 555.53 จุด เพิ่มขึ้น 1.01 จุด หรือ +0.18% ขณะที่ ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 7,880.87 จุด เพิ่มขึ้น 10.19 จุด หรือ +0.13% ส่วนดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 23,745.06 จุด เพิ่มขึ้น 5.59 จุด หรือ +0.02% และดัชนี FTSE 100 ลอนดอน ปิดที่ 9,299.84 จุด เพิ่มขึ้น 15.01 จุด หรือ +0.16%

หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์พุ่ง 0.9% โดยหุ้น UCB ทำสถิติสูงสุด หลังคู่แข่ง MoonLake บริษัทชีวเภสัชภัณฑ์ของสหรัฐฯ เผยผลทดลองยารักษาโรคผิวหนังไม่ชัดเจน ด้านหุ้น GSK กระโดด 2.2% หลังประกาศเปลี่ยนซีอีโอเป็น ลุค มีลส์ (Luke Miels) มีผลเดือนมกราคม ปี 2569 และหุ้น AstraZeneca บวกเกือบ 1% หลังการยืนยันนำหุ้นเข้าจดทะเบียนโดยตรงที่ตลาดหุ้นนิวยอร์ก แทนการขาย ADRs

กลุ่มเหมืองแร่ พุ่ง 1.7% ตามราคาทองคำและทองแดงที่ปรับตัวขึ้น ส่วนกลุ่มเทคโนโลยี บวก 1.1% และสินค้าหรูบวกแรง  1.9% ฟื้นจากแรงขายสัปดาห์ก่อน ในทางกลับกัน กลุ่มธนาคารยูโรโซน ร่วง 1.1% โดยหุ้น Commerzbank ร่วง 3% และกลุ่มพลังงานอ่อนตัวตามราคาน้ำมันที่ปรับลงกว่า 2%

ทั้งนี้ นักลงทุนจับตาการเจรจาระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กับแกนนำ พรรคเดโมแครตกับพรรครีพับลิกัน หากไม่บรรลุข้อตกลง รัฐบาลสหรัฐฯ จะเริ่มชัตดาวน์ในวันพุธนี้ (1 ต.ค.68) ซึ่งจะทำให้กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ ต้องเลื่อนการเปิดเผยข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญ รวมถึงรายงานการจ้างงานเดือนกันยายน ที่กำหนดประกาศในวันศุกร์

นักวิเคราะห์จาก Citi ระบุว่า ความเป็นไปได้ที่จะเกิดชัตดาวน์ในเดือนตุลาคมยังอยู่ในระดับสูง ซึ่งสร้างแรงกดดันต่อทิศทางตลาดการเงินโลก

Back to top button