
“ดาวโจนส์” ปิดบวก 81 จุด แรงซื้อ หุ้นเทค–เฮลท์แคร์หนุน
ตลาดหุ้นสหรัฐฯ ปิดบวกต่อเนื่อง ดาวโจนส์พุ่ง 81 จุด ได้รับแรงหนุนจากหุ้นเทคโนโลยี–เฮลท์แคร์ แม้ยังเผชิญความเสี่ยงชัตดาวน์รัฐบาลกลาง
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นสหรัฐฯ เมื่อวันอังคาร (30 ก.ย.68) ดัชนีหลักทั้งสามปิดบวก แม้ยังมีความกังวลต่อความเสี่ยงที่รัฐบาลกลางอาจเผชิญภาวะชัตดาวน์ หากสภาคองเกรสไม่สามารถผ่านกฎหมายงบประมาณชั่วคราวได้ทัน ภายในเส้นตาย วันนี้ (1 ต.ค.68) ซึ่งอาจส่งผลให้การเผยแพร่ข้อมูลเศรษฐกิจสำคัญต้องล่าช้า และสร้างความไม่ชัดเจนต่อแนวโน้มดอกเบี้ยนโยบายของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด)
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ (.DJI) ปิดที่ 46,397.89 จุด เพิ่มขึ้น 81.82 จุด หรือ +0.18% ขณะที่ ดัชนี S&P 500 (.SPX) ปิดที่ 6,688.46 จุด เพิ่มขึ้น 27.25 จุด หรือ +0.41% และ ดัชนี Nasdaq Composite (.IXIC) ปิดที่ 22,660.01 จุด เพิ่มขึ้น 68.86 จุด หรือ +0.30%
แรงซื้อกระจายไปยังหุ้น 7 ใน 11 กลุ่มอุตสาหกรรมในดัชนี S&P 500 นำโดยกลุ่มเฮลท์แคร์และเทคโนโลยี ขณะที่หุ้น Pfizer พุ่งขึ้นเกือบ 7% หลังประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ประกาศเดินหน้าปรับลดราคายาตามใบสั่งแพทย์เพื่อช่วยเหลือผู้มีรายได้น้อย ส่งผลให้หุ้นกลุ่มเฮลท์แคร์ฟื้นตัวเด่น
ด้านหุ้นกลุ่มพลังงานและสินค้าฟุ่มเฟือย ปรับตัวลงเล็กน้อย ขณะนักลงทุนยังคงจับตาการเจรจาระหว่างพรรครีพับลิกันและเดโมแครต เพื่อหลีกเลี่ยงการปิดหน่วยงานรัฐ ซึ่งหากไม่สามารถบรรลุข้อตกลงได้ทันเวลา หน่วยงานของรัฐบาลกลางสหรัฐฯ จะปิดทำการเป็นครั้งแรกในรอบเกือบ 7 ปี
ทั้งนี้ เดือนกันยายนที่ผ่านมา ดัชนี S&P 500 ปรับตัวขึ้น 3.53% และ Nasdaq พุ่งขึ้น 5.61% ต่อเนื่องเป็นเดือนที่ 5 และถือเป็นผลงานรายเดือนที่ดีที่สุดในรอบกว่า 15 ปี (พ.ศ. 2553) ขณะที่ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 1.87% ซึ่งเป็นการปรับตัวขึ้นในเดือนกันยายนที่แข็งแกร่งที่สุดนับตั้งแต่ปี พ.ศ. 2562 สะท้อนความเชื่อมั่นของนักลงทุนต่อการขับเคลื่อนเศรษฐกิจสหรัฐฯ ด้วยเทคโนโลยีและนวัตกรรมใหม่ แม้เผชิญความไม่แน่นอนทางการเมืองในระยะสั้น