GUNKUL เด้ง 3% โบรกแนะ “ซื้อ” เป้า 2.40 บาท รับรัฐหนุนติด “โซลาร์รูฟ” ลดหย่อนภาษี

GUNKUL วิ่ง 3% โบรกมองบวกนโยบายรัฐดัน “โซลาร์ชุมชน” กำลังผลิต 1,500 เมกะวัตต์ ครอบคลุม 300 ชุมชน หรือ 15,000 ครัวเรือนทั่วไทย ชี้ได้อานิสงส์ลดหย่อนภาษี 2 แสนบาท หนุนประชาชนสนใจเพิ่มขึ้น


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (2 ต.ค. 68) ราคาหุ้น บริษัท กันกุลเอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ GUNKUL ณ เวลา 14.54 น. อยู่ที่ระดับ 1.93 บาท บวก 0.05 บาท หรือ 2.66% สูงสุดที่ระดับ 1.94 บาท ต่ำสุดที่ระดับ 1.90 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 26.25 ล้านบาท

โดยราคาหุ้นปรับตัวขึ้นเนื่องมาจาก นายอรรถพล ฤกษ์พิบูลย์ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงพลังงาน เปิดเผยในการแถลงนโยบายของรัฐบาลต่อรัฐสภาเมื่อวันที่ 30 ก.ย. 68 ที่ผ่านมา ชี้แจงแนวทางที่รัฐบาลจะเร่งดำเนินการให้สำเร็จภายในระยะเวลา 4 เดือน มีโครงการที่สำคัญ ประกอบด้วย โครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน 1,500 เมกะวัตต์ (MW) ชุมชนละ 5 เมกะวัตต์ ครอบคลุมพื้นที่เป้าหมายกว่า 300 ชุมชน (15,000 ครัวเรือน) ทั่วประเทศ โดยใช้โควตาที่เหลือจากโซลาร์ฟาร์มที่เปิดให้เอกชนดำเนินการ แต่ยังไม่ได้มีการลงนามในสัญญาซื้อขายไฟฟ้า หรือ โครงการ Big lot 8,600 เมกะวัตต์ ส่วนที่ยังเหลืออยู่มาดำเนินการ นอกจากนี้ จะเร่งดำเนินโครงการ โซลาร์สูบน้ำเพื่อการเกษตร 1,200 แห่ง มีเป้าหมายครอบคลุมพื้นที่กว่า 700,000 ไร่ ทั่วประเทศ

รวมถึงการเร่งรัดมาตรการลดหย่อนภาษีโซลาร์เซลล์ โดยลดหย่อนภาษีได้ 200,000 บาท เพื่อกระตุ้นการใช้พลังงานแสงอาทิตย์ในครัวเรือน ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 90,000 ราย และเร่งอนุมัติการผลิตไฟฟ้าจากโซลาร์ลอยน้ำใน 3 เขื่อนหลักของ การไฟฟ้าฝ่ายผลิตแห่งประเทศไทย หรือ กฟผ. (เขื่อนภูมิพล เขื่อนวชิราลงกรณ์ เขื่อนศรีนครินทร์) กำลังการผลิตรวมกว่า 1,638 เมกะวัตต์

ส่วนที่เกี่ยวข้องกับนโยบายการพัฒนาโครงสร้างพื้นฐานระบบพลังงาน รองรับอุตสาหกรรมแห่งอนาคต จะเร่งทำสัญญาซื้อขายพลังงานไฟฟ้าได้โดยตรง (Direct Power Purchase Agreement: Direct PPA) 2,000 เมกะวัตต์ เพิ่มขีดความสามารถในการแข่งขันของประเทศ การพัฒนาทั้งระบบผลิตและระบบส่งไฟฟ้าในพื้นที่ EEC ภายใต้กรอบงบประมาณเดิม การเพิ่มประสิทธิภาพการใช้พลังงานในภาคอุตสาหกรรมผ่านกลไก “กองทุนเพื่อการส่งเสริมการอนุรักษ์พลังงาน”

สำหรับนโยบายเพื่อสร้างความยั่งยืนระยะยาวรองรับ NET ZERO 2050 (เป้าหมายการปล่อยก๊าซเรือนกระจกสุทธิเป็นศูนย์ภายในปี 2593) ในส่วนโครงการโซลาร์ภาคประชาชนคาดว่าจะสามารถลดการปล่อยคาร์บอนไดออกไซด์ได้ 3.6 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ต่อปี

ด้านการจัดทำแผนพัฒนากำลังผลิตไฟฟ้า (แผนพีดีพี) ฉบับใหม่ จะทบทวนรายละเอียดแผนเดิมให้ตอบโจทย์เป้าหมาย Net Zero 2050 ด้วยการเพิ่มสัดส่วนพลังงานหมุนเวียนและพลังงานสะอาดระบบผลิตไฟฟ้า ที่ได้มีการทาบทามบุคคลที่จะมาเป็นประธานการจัดทำแผนพีดีพีคนใหม่ แทนคนเก่าที่ยื่นหนังสือลาออกเอาไว้แล้ว และมั่นใจว่าจะสามารถจัดทำแผนพีดีพีฉบับใหม่ให้เสร็จได้ภายใน 4 เดือน รวมทั้งการพัฒนาเทคโนโลยีดักจับและกักเก็บคาร์บอนไดออกไซด์ (CCS) ในอ่าวไทยที่มีศักยภาพกักเก็บรวม 7,000 ล้านตันคาร์บอนไดออกไซด์ โดยถือเป็นโครงการขนาดใหญ่ที่ใช้เงินลงทุนสูง จะผลักดันให้เริ่มต้นนับหนึ่งโครงการได้ในรัฐบาลชุดนี้

ขณะที่ นางสาวนฤชล ดำรงปิยวุฒิ์ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร GUNKUL กล่าวว่า บริษัทยังติดตามความชัดเจนนโยบายของภาครัฐในการส่งเสริมโซลาร์ชุมชน 1,500 เมกะวัตต์ เบื้องต้นคาดว่าจะให้เอกชนเป็นผู้ลงทุนติดตั้งให้ชุมชนและรัฐจะรับซื้อไฟจากชุมชน โดยใช้โควตาโครงการพลังงานหมุนเวียนบิ๊กล็อต 2.2 อย่างไรก็ตาม ยังรอความชัดเจนด้านหลักเกณฑ์จากภาครัฐก่อน

สำหรับมาตรการลดหย่อนภาษีโซลาร์เซลล์ โดยลดหย่อนภาษีได้ 200,000 บาท ตั้งเป้าหมายไว้ที่ 90,000 รายนั้น เชื่อว่าจะทำให้ประชาชนสนใจติดตั้ง solar rooftop เพิ่มขึ้น เนื่องจากได้รับการลดหย่อนภาษี โดยในส่วนนี้ประชาชนจะเป็นผู้ลงทุนเองและนำรายจ่ายดังกล่าวไปลดหย่อนภาษี ทั้งนี้ในส่วนของบริษัทมีความพร้อมในการติดตั้ง EPC โซลาร์รูฟท็อปให้กับประชาชน ขณะเดียวกัน บริษัทยังมีความร่วมมือกับพันธมิตร

โดย GUNKUL ได้รับการแต่งตั้งโดย SUNGROW ให้เป็นผู้จัดจำหน่ายอย่างเป็นทางการ (Tier 1 Distributor) ในประเทศไทยสำหรับอุปกรณ์โซลูชันอินเวอร์เตอร์และแบตเตอรี่ ดังนั้นเชื่อว่าการส่งเสริมนโยบายดังกล่าวจะช่วยให้บริษัทสามารถขยายฐานลูกค้าได้เพิ่มขึ้น เนื่องจากเชื่อว่าหากได้รับการลดหย่อนภาษีประชาชนจะสนใจติดตั้งโซลาร์รูฟท็อปเพิ่ม ขึ้น เนื่องจากคุ้มทุนเร็วขึ้น

นายสุวัฒน์ สินสาฎก กรรมการผู้จัดการ บริษัทหลักทรัพย์ โกลเบล็ก จำกัด (มหาชน) กล่าวว่า การที่กระทรวงพลังงานเดินหน้าโครงการโซลาร์ฟาร์มชุมชน กำลังการผลิต 1,500 เมกะวัตต์ พร้อมเร่ง Direct PPA กำลังการผลิต 2,000 เมกะวัตต์ จะส่งผลดีต่อหุ้นกลุ่มไฟฟ้าทั้งหมด ทั้ง บริษัท กัลฟ์ ดีเวลลอปเมนท์ จำกัด (มหาชน) หรือ GULF, บริษัท โกลบอล เพาเวอร์ ซินเนอร์ยี่ จำกัด (มหาชน) หรือ GPSC, บริษัท บี.กริม เพาเวอร์ จำกัด (มหาชน) หรือ BGRIM, บริษัท ผลิตไฟฟ้า จำกัด (มหาชน) หรือ EGCO และ บริษัท ราช กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ RATCH น่าจะสนใจ

รวมถึงพลังงานทดแทน อย่าง GUNKUL ขณะที่ บริษัท เอสทีพี แอนด์ ไอ จำกัด (มหาชน) หรือ STPI ยังได้ประโยชน์จากการเข้าไปก่อสร้างโรงไฟฟ้า ที่คาดว่าจะเร่งดำเนินการอย่างรวดเร็วให้เสร็จภายในระยะเวลา 4 เดือน

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี จำกัด (มหาชน) ระบุผ่านบทวิเคราะห์ว่ามีมุมมองเชิงบวกต่อ GUNKUL เพิ่มขึ้นจาก Catalyst 3 ปัจจัย ได้แก่ 1.) การอนุมัติเซ็น PPA พลังงานลมเฟส 2 ซึ่ง GUNKUL ได้รับคัดเลือกรวม 284 MW โดยฝ่ายนักวิเคราะห์มีการทำ Scenario analysis อิง Conservative กรณีที่ GUNKUL ขายหุ้นโครงการพลังงานลม 50% ให้แก่ GULF คาดการณ์เป็น Upside แก่ประมาณการปี 28-30 ที่ 1.8%, 7.4% และ 11% ตามลำดับ และเป็น TP ส่วนเพิ่มอีก 0.4 บาท/หุ้น 2.) โอกาสระยะยาวในการ Bidding งาน EPC สายส่งไฟฟ้าไปยัง สปป. ลาว

3.) ทิศทางนโยบายของรัฐบาลพรรคภูมิใจไทยซึ่งสนับสนุน Solar rooftop และกัญชงสาหรับการแพทย์ ซึ่งเป็น Upside ที่ยังไม่ถูกรวมอยู่ในประมาณการของเราเช่นกัน คงประมาณการและคาแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาเป้าหมายเดิมที่ 2.40 บาท

Back to top button