
หุ้นยุโรปปิดบวก ขานรับแรงซื้อ “หุ้นอุตสาหกรรม-ชิป” หนุน
ตลาดหุ้นยุโรปปิดบวก รับแรงหนุนจากหุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมและชิป ขณะที่ดัชนีหลักส่วนใหญ่ปรับตัวขึ้น ทำสถิติสูงสุดใหม่ นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าของการผ่อนคลายนโยบายการเงินจากธนาคารกลางสหรัฐฯ
ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นยุโรป เมื่อวันพฤหัสบดี (2 ต.ค.68) ปิดบวก โดยได้รับแรงหนุนจากกลุ่มอุตสาหกรรมและหุ้นที่เกี่ยวข้องกับชิป ขณะที่ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปรับตัวลดลงเล็กน้อย จากความคาดหวังที่ธนาคารกลางสหรัฐ (เฟด) จะปรับลดดอกเบี้ยในเดือนนี้ ซึ่งช่วยหนุนบรรยากาศการลงทุนโดยรวม
ดัชนี STOXX 600 ปิดที่ 567.60 จุด เพิ่มขึ้น 2.98 จุด หรือ +0.53% ขณะที่ตลาดหุ้นอื่น ๆ ได้แก่ ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศส ปิดที่ 8,056.63 จุด เพิ่มขึ้น 89.68 จุด หรือ +1.13% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมนี ปิดที่ 24,422.56 จุด เพิ่มขึ้น 308.94 จุด หรือ +1.28% และ ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอน ปิดที่ 9,427.73 จุด ลดลง 18.70 จุด หรือ -0.20%
หุ้นกลุ่มอุตสาหกรรมปรับตัวขึ้น 1.5% โดยหุ้น Siemens เพิ่มขึ้น 4.2% และหุ้น Schneider เพิ่มขึ้น 2.3% ซึ่งเป็นแรงหนุนหลักต่อดัชนี ขณะที่หุ้นกลุ่มเทคโนโลยี เพิ่มขึ้น 2.3% ตามการฟื้นตัวของหุ้นชิปทั่วโลก
ทั้งนี้ ความเชื่อมั่นในตลาดยังได้รับการสนับสนุนหลังจากที่ Samsung Electronics และ SK Hynix ของเกาหลีใต้ลงนามในหนังสือแสดงเจตจำนงในการจัดหาชิปหน่วยความจำสำหรับศูนย์ข้อมูลของ OpenAI
หุ้น ASML พุ่งขึ้น 4.3% และหุ้น ASMI เพิ่มขึ้น 6.5% ส่งผลให้ดัชนีหลักของตลาดหุ้นเนเธอร์แลนด์ ทำสถิติสูงสุดใหม่เช่นกัน
นักลงทุนยังคงจับตาความคืบหน้าของปัญหาการปิดหน่วยงานรัฐบาลสหรัฐฯ (ชัตดาวน์) ซึ่งอาจส่งผลให้การเผยแพร่ข้อมูลการจ้างงานสำคัญในวันศุกร์ (3 ต.ค.68) ล่าช้า และเพิ่มความไม่แน่นอนต่อความสามารถของธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) ในการประเมินภาวะเศรษฐกิจ
สำหรับแนวโน้มที่เฟดจะผ่อนคลายนโยบายการเงินกลายเป็นแรงผลักดันล่าสุดให้กับตลาดหุ้นยุโรป โดยกลุ่มธนาคารและอุตสาหกรรมยังคงเป็นกลุ่มที่ทำผลงานได้ดีในปีนี้ การเปิดเผยรายงานการจ้างงานภาคเอกชนที่อ่อนแอเมื่อวันพุธ ทำให้นักลงทุนประเมินโอกาสที่เฟดจะปรับลดดอกเบี้ย 0.25% ในเดือนตุลาคมอยู่ที่ 99% เพิ่มจากเกือบ 86% เมื่อสัปดาห์ก่อน ตามข้อมูลจาก CME FedWatch Tool