กรมอุตุ เตือน ไทยรับมือ “น้ำท่วมฉับพลัน” ฝนตกหนัก-คลื่นลมแรงช่วง 5-7 ต.ค.นี้

กรมอุตุวิทยา เตือนประเทศไทยเตรียมรับมือฝนตกหนักถึงหนักมาก จากอิทธิพลพายุแมตโม ขอให้ประชาชนฝ้าระวังน้ำท่วมฉับพลันน้ำป่าไหลหลาก ขณะที่ทะเลอันดามันมีคลื่นสูง 1-2 เมตร ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง หลีกเลี่ยงบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (4 ต.ค.68) กรมอุตุนิยมวิทยา ออกประกาศเรื่อง พายุ “แมตโม” ฉบับที่ 3 (279/2568) ว่า เมื่อเวลา 04.00 น. ของวันนี้ (4 ต.ค. 68) พายุโซนร้อนกำลังแรง “แมตโม” บริเวณทะเลจีนใต้ตอนบน มีศูนย์กลางอยู่ที่ละติจูด 17.7 องศาเหนือ ลองจิจูด 117.4 องศาตะวันออก ความเร็วลมสูงสุดใกล้ศูนย์กลางประมาณ 100 กิโลเมตรต่อชั่วโมง กำลังเคลื่อนตัวทางทิศตะวันตกค่อนทางเหนือเล็กน้อย ด้วยความเร็วประมาณ 25 กิโลเมตรต่อชั่วโมง

โดยพายุดังกล่าวมีแนวโน้มจะทวีกำลังแรงขึ้นเป็นพายุไต้ฝุ่น และคาดว่าจะเคลื่อนผ่านเกาะไหหลำ ประเทศจีน ลงสู่อ่าวตังเกี๋ย และขึ้นฝั่งบริเวณประเทศเวียดนามตอนบนในช่วงวันที่ 5-6 ต.ค.นี้ หลังจากนั้นจะอ่อนกำลังลงอย่างรวดเร็วตามลำดับ เนื่องจากมีมวลอากาศเย็นจากประเทศจีนแผ่เสริมลงมาปกคลุมในช่วงวันที่ 6-7 ต.ค.68 โดยพายุนี้ไม่เคลื่อนเข้าสู่ประเทศไทย

จากอิทธิพลของพายุ “แมตโม” ส่งผลให้ในช่วงวันที่ 5-7 ต.ค.68 มรสุมตะวันตกเฉียงใต้ที่พัดปกคลุมทะเลอันดามัน ประเทศไทย และอ่าวไทยจะมีกำลังแรงขึ้น ทำให้ภาคเหนือ และภาคตะวันออกเฉียงเหนือมีฝนเพิ่มขึ้น และมีฝนตกหนักบางแห่งรวมทั้งด้านรับมรสุมของภาคตะวันออก และภาคใต้ฝั่งตะวันตก ขอให้ประชาชนในบริเวณดังกล่าวระวังอันตรายจากฝนตกหนัก และฝนที่ตกสะสม ซึ่งอาจทำให้เกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และน้ำล้นตลิ่ง โดยเฉพาะพื้นที่ลาดเชิงเขาใกล้ทางน้ำไหลผ่าน พื้นที่ลุ่ม และพื้นที่น้ำท่วมขัง

สำหรับคลื่นลมบริเวณทะเลอันดามันตอนบนมีกำลังปานกลาง โดยมีคลื่นสูง 1-2 เมตร บริเวณที่มีฝนฟ้าคะนองคลื่นสูงมากกว่า 2 เมตร ขอให้ชาวเรือเดินเรือด้วยความระมัดระวัง และหลีกเลี่ยงการเดินเรือในบริเวณที่มีฝนฟ้าคะนอง

ภาคเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดแม่ฮ่องสอน, เชียงใหม่, สุโขทัย, ตาก, กำแพงเพชร, พิจิตร, พิษณุโลก และเพชรบูรณ์

ภาคตะวันออกเฉียงเหนือ มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดเลย, หนองคาย, บึงกาฬ, สกลนคร, นครพนม, หนองบัวลำภู, ชัยภูมิ, ขอนแก่น, นครราชสีมา, บุรีรัมย์, สุรินทร์, ศรีสะเกษ และอุบลราชธานี

ภาคกลาง มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดพระนครศรีอยุธยา, กาญจนบุรี, ราชบุรี, นครปฐม, สมุทรสาคร, สมุทรสงคราม, และเพชรบุรี

ภาคตะวันออก มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 70 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดชลบุรี ระยอง จันทบุรี และตราด

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันออก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดประจวบคีรีขันธ์, ชุมพร, สุราษฎร์ธานี และนครศรีธรรมราช

ภาคใต้ (ฝั่งตะวันตก) มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 40 ของพื้นที่ บริเวณจังหวัดระนอง, พังงา, กระบี่ และตรัง

กรุงเทพและปริมณฑล มีฝนฟ้าคะนอง ร้อยละ 60 ของพื้นที่

Back to top button