
“ไปรษณีย์ไทย” ชูบริการ “ePacket” ส่งสินค้าตรงสหรัฐฯ รวมภาษีขาเข้า ครบจบในขั้นตอนเดียว
ไปรษณีย์ไทย ยกระดับบริการส่งสิ่งของไปอเมริกา ชูบริการ “ePacket” รวมภาษีขาเข้า ค่าภาษีอากร (Duty & Tax) ตลอดจนค่าธรรมเนียมปลายทาง หนุนผู้ค้าออนไลน์ไทยขยายสินค้าสู่ตลาดโลก
ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (6 ต.ค.68) บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด เดินหน้ายกระดับบริการขนส่งระหว่างประเทศตอบโจทย์ลูกค้าธุรกิจและอีคอมเมิร์ซที่ต้องการส่งสินค้าไปประเทศสหรัฐอเมริกา โดยจะเริ่มให้บริการ “ePacket” สำหรับการส่งสิ่งของและสินค้าไปยังสหรัฐฯ สามารถส่งได้น้ำหนักสูงสุด 5 กิโลกรัม จากเดิมเพียง 2 กิโลกรัม พร้อมเพิ่มความคุ้มค่าด้วยราคาพิเศษที่รวมค่าภาษีขาเข้าแล้ว ในอัตราค่าขนส่งคงเดิม เพื่อให้ผู้ส่งบริหารจัดการต้นทุนและค่าส่งได้อย่างมั่นใจยิ่งขึ้น สำหรับสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อกล่อง ลูกค้าสามารถเลือกใช้บริการ Courier Post ส่งด่วนพรีเมียมทั่วโลก เริ่มแล้วตั้งแต่วันนี้เป็นต้นไป
ดร.ดนันท์ สุภัทรพันธุ์ กรรมการผู้จัดการใหญ่ บริษัท ไปรษณีย์ไทย จำกัด กล่าวว่า ไปรษณีย์ไทยได้เตรียมความพร้อมอย่างเต็มที่ เพื่อเพิ่มทางเลือกให้กับผู้ใช้บริการที่ต้องการส่งสินค้าไปสหรัฐอเมริกา เรามุ่งมั่นที่จะช่วยร้านค้าออนไลน์และ SME ไทย ให้เข้าถึงตลาดโลกได้ง่ายและสะดวกขึ้น โดยเฉพาะตลาดสหรัฐฯ ที่มีความต้องการสินค้าจากไทยเพิ่มขึ้นอย่างต่อเนื่อง ได้คลายความกังวลในเรื่องของน้ำหนัก การคิดค่าบริการ และมาตรการภาษีขาเข้าของสหรัฐอเมริกา ตลอดจนสร้างความเชื่อมั่นให้ทั้งผู้ส่งและผู้รับอย่างแท้จริง
บริการ ePacket รูปแบบใหม่ที่ส่งไปยังปลายทางสหรัฐอเมริกา สามารถส่งได้น้ำหนักสูงสุด 5 กิโลกรัม จากเดิมเพียง 2 กิโลกรัม ช่วยให้ผู้ประกอบการและร้านค้าออนไลน์สามารถส่งสินค้าได้หลากหลายประเภท รวมถึงเพิ่มปริมาณการส่งต่อชิ้นได้มากขึ้น อีกทั้ง บริการนี้ยังคิดค่าขนส่งแบบ Delivered Duty Paid (DDP) ซึ่งได้รวมค่าดำเนินการพิธีการศุลกากรขาเข้าและค่าภาษีอากร (Duty & Tax) ตลอดจนค่าธรรมเนียมปลายทางเรียบร้อยแล้ว ทำให้ผู้ส่งมั่นใจได้ว่าสินค้า จะส่งถึงผู้รับโดยไม่มีค่าใช้จ่ายเพิ่มเติม ราคาเริ่มต้นเพียง 339 บาท ในพิกัดน้ำหนัก 100 กรัม
โดยสินค้าที่ต้องการจัดส่งจะต้องมีมูลค่าไม่เกิน 60 เหรียญสหรัฐฯ หรือประมาณ 1,900 บาทต่อกล่อง ส่งได้ครอบคลุมทุกพื้นที่ในสหรัฐอเมริกา อีกทั้ง ยังสามารถจัดทำจ่าหน้าผ่าน DPOST Inter และติดตามสถานะการจัดส่งผ่าน Track & Trace ได้ตั้งแต่ต้นทางจนถึงผู้รับปลายทาง อีกทั้งยังคุ้มครองกรณีสูญหายและเสียหายสูงสุด 500 บาทต่อชิ้น พร้อมทางเลือกในการซื้อความคุ้มครองเพิ่มเติม ePacket Plus เพียง 30 บาทต่อกล่อง เพื่อเพิ่มความคุ้มครองได้สูงสุด 2,000 บาท
สำหรับสินค้าที่มีมูลค่าเกิน 60 เหรียญสหรัฐฯ ต่อกล่อง สามารถเลือกใช้บริการ Courier Post ส่งด่วน พรีเมียมทั่วโลก ที่รองรับน้ำหนักพัสดุได้สูงถึง 200 กิโลกรัม หรือ Courier Post One Price ส่งได้สูงสุด 25 กิโลกรัมแทนได้ ตลอดจนยังมีบริการ EMS World บริการลงทะเบียนระหว่างประเทศที่รองรับจดหมาย เอกสารและของตีพิมพ์ที่มีน้ำหนักไม่เกิน 500 กรัม และบริการ Amazon FBA ไปยังประเทศสหรัฐฯ ได้ตามเดิม สามารถใช้บริการได้ที่ไปรษณีย์ทุกแห่งทั่วประเทศ สอบถามข้อมูลเพิ่มเติมได้ที่ THP Contact Center โทร.1545 และเว็บไซต์ www.thailandpost.co.th