CCI ขยับขึ้นรอบ 8 เดือน รัฐเร่ง “คนละครึ่งพลัส” ขับเคลื่อนเศรษฐกิจ Q4 ฟื้นตัว

“สิริพงศ์” ระบุเศรษฐกิจไทยมีสัญญาณฟื้น ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภคปรับขึ้นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน หนุนจาก “คนละครึ่ง พลัส” และมาตรการ “Quick Big Win” ที่รัฐบาลเร่งผลักดันในช่วงไตรมาสสุดท้ายของปี


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (10 ต.ค.68) นายสิริพงศ์ อังคสกุลเกียรติ โฆษกประจำสำนักนายกรัฐมนตรี เปิดเผยว่า สัญญาณความเชื่อมั่นทางเศรษฐกิจปรับตัวดีขึ้นในหลายจุด จากทัศนคติเชิงบวกของประชาชนต่อการปรับเปลี่ยนรัฐบาลใหม่ รวมถึงมาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐ โดยเฉพาะโครงการ “คนละครึ่ง พลัส” และภาคการท่องเที่ยวที่ขยายตัว ช่วยกระตุ้นการใช้จ่ายในประเทศและสนับสนุนธุรกิจภาคการค้าและบริการ เชื่อว่าจะส่งผลดีต่อเศรษฐกิจโดยรวม

ทั้งนี้ กระทรวงพาณิชย์ พบว่า ดัชนีความเชื่อมั่นผู้บริโภค (CCI) ในอนาคต (3 เดือนข้างหน้า) ปรับตัวเพิ่มขึ้นอยู่ที่ระดับ 56.0 ซึ่งสอดคล้องกับศูนย์พยากรณ์เศรษฐกิจและธุรกิจ มหาวิทยาลัยหอการค้าไทย ที่เปิดเผยดัชนีความเชื่อมั่นของผู้บริโภคเดือนกันยายน 2568 อยู่ที่ 50.7 ปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือน ขณะที่ดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับเศรษฐกิจโดยรวมอยู่ที่ 44.4 และดัชนีความเชื่อมั่นเกี่ยวกับรายได้ในอนาคตอยู่ที่ 59.3

“ดัชนีความเชื่อมั่นฯ ทุกรายการปรับตัวขึ้นเป็นครั้งแรกในรอบ 8 เดือนเช่นเดียวกัน โดยปัจจัยบวกสำคัญมาจากการเมืองในประเทศเริ่มมีความชัดเจนขึ้น หลังจากที่นายกรัฐมนตรีได้แถลงนโยบายต่อรัฐสภาเป็นที่เรียบร้อย ซึ่งหนุนความเชื่อมั่น บรรยากาศการลงทุน และภาวะเศรษฐกิจโดยรวม” นายสิริพงศ์กล่าว

ขณะที่ สภาธุรกิจตลาดทุนไทย (FETCO) สำรวจดัชนีความเชื่อมั่นนักลงทุน (FETCO Investor Confidence Index) เดือนกันยายน 2568 พบว่า อยู่ในเกณฑ์ “ร้อนแรง” ในอีก 3 เดือนข้างหน้า (ธันวาคม 2568) โดยนักลงทุนมองว่า มาตรการกระตุ้นเศรษฐกิจของภาครัฐเป็นปัจจัยหนุนความเชื่อมั่นมากที่สุด ขณะที่ นายกอบศักดิ์ ภูตระกูล ประธานกรรมการ FETCO เห็นว่า การสานต่อนโยบายของรัฐบาลชุดปัจจุบันสร้างความต่อเนื่องทางเศรษฐกิจ เช่น จากโครงการ “คนละครึ่ง” ต่อยอดสู่ “คนละครึ่ง พลัส”, การออมเพื่อการเกษียณอายุ และหวยออมทรัพย์

นายสิริพงศ์ กล่าวเพิ่มเติมว่า นายอนุทิน ชาญวีรกูล นายกรัฐมนตรีและรัฐมนตรีว่าการกระทรวงมหาดไทย ได้กำชับทุกกระทรวง โดยเฉพาะทีมเศรษฐกิจ ให้เร่งเดินหน้ามาตรการ “Quick Big Win” ให้เห็นผลอย่างเป็นรูปธรรมภายใน 4 เดือนข้างหน้า เพื่อกระตุ้นโมเมนตัม จุดติดเครื่องยนต์เศรษฐกิจ พลิกฟื้นบรรยากาศการค้าและการลงทุน ทำให้ประชาชนพร้อมกลับมาจับจ่ายใช้สอยในไตรมาสสุดท้ายของปีนี้ แม้จะเป็นมาตรการระยะสั้น แต่เชื่อว่าจะส่งผลต่อเนื่องในระยะยาว

ก่อนหน้านี้ นายอนุทิน ในฐานะประธานคณะกรรมการนโยบายเศรษฐกิจ ระบุว่า การประชุมคณะรัฐมนตรี (ครม.) เศรษฐกิจ จะมีขึ้นทุกบ่ายวันจันทร์ เพื่อกลั่นกรองเรื่องสำคัญ ก่อนนำเข้าที่ประชุม ครม. ประจำสัปดาห์ เพื่อให้การพิจารณามีความรวดเร็วและมีประสิทธิภาพมากขึ้น

Back to top button