WTI ปิดบวก 8 เซนต์ รับข่าว “ทรัมป์-ปูติน” จ่อหารือยุติสงครามยูเครน

WTI ปิดบวก 8 เซนต์ ปิดที่ 57.54 ดอลลาร์/บาร์เรล รับแรงหนุนความตึงเครียดโลกผ่อนคลาย หลัง “ทรัมป์–ปูติน” เตรียมหารือยูเครน และไฟไหม้โรงกลั่น BP หนุนแรงซื้อคืน แม้ถูกกดดันจากคาดการณ์น้ำมันล้นตลาดและสต็อกสหรัฐฯ พุ่ง


ผู้สื่อข่าวรายงาน วันนี้ (18 ต.ค. 68) สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดขยับขึ้นเล็กน้อยในวันศุกร์ (17 ต.ค.) แต่ยังคงปิดลบในรอบสัปดาห์นี้ จากข้อมูล สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) คาดการณ์ว่าจะเกิดภาวะน้ำมันล้นตลาดมากขึ้น ขณะเดียวกัน ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ผู้นำสหรัฐฯ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ผู้นำรัสเซีย เห็นพ้องจะพบปะกันอีกครั้งเพื่อหารือเกี่ยวกับสถานการณ์ในยูเครน

โดยสัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ย. เพิ่มขึ้น 8 เซนต์ หรือ 0.14%  ปิดที่ 57.54 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนสัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ (BRENT) ส่งมอบเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.38% ปิดที่ 61.29 ดอลลาร์/บาร์เรล

ขณะที่ความคืบหน้าทรัมป์และปูตินตกลงกันเมื่อวันพฤหัสบดีว่า จะจัดการประชุมสุดยอดอีกครั้งเกี่ยวกับสงครามยูเครนภายในสองสัปดาห์ข้างหน้าในประเทศฮังการี เหตุการณ์นี้เกิดขึ้นหลังจากมีการบรรลุข้อตกลงหยุดยิงระหว่างอิสราเอลและฮามาสในฉนวนกาซา ซึ่งช่วยยุติการสู้รบลงชั่วคราว

ด้านผู้นำยูเครนมีกำหนดเดินทางไปทำเนียบขาวในวันศุกร์ เพื่อขอรับการสนับสนุนทางทหารเพิ่มเติม รวมถึงขีปนาวุธพิสัยไกลแบบโทมาฮอว์ก (Tomahawk) ที่ผลิตโดยสหรัฐฯ ขณะเดียวกัน สหรัฐฯ ก็กดดันอินเดียและจีนให้ยุติการซื้อน้ำมันจากรัสเซีย

ความเห็นจากนักวิเคราะห์รายหนึ่ง กล่าวว่า หลังจากมีข้อตกลงสันติภาพครั้งสำคัญในตะวันออกกลาง อิหร่านถูกจำกัดบทบาท และยูเครนเริ่มเข้าสู่แนวทางการเจรจา ความเสี่ยงจำนวนมากในตลาดได้ลดลงอย่างไม่เคยเกิดขึ้นมาก่อน

ส่วนแรงกดดันต่อราคาน้ำมันในสัปดาห์นี้ ยังมาจากความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ และจีนที่เพิ่มขึ้น ซึ่งสร้างความกังวลต่อแนวโน้มเศรษฐกิจและอุปสงค์พลังงานที่อาจชะลอตัว

นักวิเคราะห์อีกราย กล่าวว่า ความตึงเครียดทางการค้านี้ ทำลายความเชื่อมั่นโดยสิ้นเชิง และคาดว่าเศรษฐกิจสหรัฐฯ จะได้รับผลกระทบในเวลาไม่นาน

ขณะที่ในวันศุกร์ที่ผ่านมา เกิดเหตุเพลิงไหม้ที่โรงกลั่นของบริษัท BP ที่เมืองไวติง รัฐอินเดียนา โดยนักวิเคราะห์ระบุว่าผลกระทบจะจำกัดอยู่เพียงตลาดในภูมิภาคมิดเวสต์เท่านั้น

ส่วนนักวิเคราะห์จาก GasBuddy กล่าวว่า ตลาดน้ำมันบริเวณรอบทะเลสาบเกรตเลกส์อาจมีราคาน้ำมันพุ่งขึ้น โดยเขาโพสต์บน X ว่า ราคาน้ำมันค้าส่งในพื้นที่อาจเพิ่มขึ้นราว 20 เซนต์ต่อแกลลอน

ราคาน้ำมันยังถูกกดดันจากการคาดการณ์ของ สำนักงานพลังงานระหว่างประเทศ (IEA) ที่ระบุว่าในปี 2569 อุปทานน้ำมันส่วนเกินจะเพิ่มขึ้นอีก ส่วน สำนักงานสารสนเทศด้านพลังงานของสหรัฐฯ (EIA) รายงานเมื่อวันพฤหัสบดีว่า สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้น 3.5 ล้านบาร์เรลในสัปดาห์ที่ผ่านมา สู่ระดับ 423.8 ล้านบาร์เรล สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดไว้เพียง 288,000 บาร์เรล

การเพิ่มขึ้นของสต็อกน้ำมันที่มากกว่าคาดเกิดจากการที่โรงกลั่นหลายแห่งลดการเดินเครื่องเพื่อเข้ารับการซ่อมบำรุงตามรอบฤดูใบไม้ร่วง ข้อมูลยังชี้ด้วยว่า การผลิตน้ำมันของสหรัฐฯ เพิ่มขึ้นแตะระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ที่ 13.636 ล้านบาร์เรลต่อวัน

Back to top button