“หุ้นเอเชีย” แกว่งตัวลบ วิตกสหรัฐคุมเข้มส่งออกสินค้า “ซอร์ฟแวร์” ไปจีน

ตลาดหุ้นเอเชียเช้าวันนี้เปิดลบตามดาวโจนส์ หลังนักลงทุนกังวลความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสหรัฐฯ–จีนปะทุระลอกใหม่ จากแผนจำกัดการส่งออกสินค้าซอฟต์แวร์ไปจีน ขณะเดียวกันราคาน้ำมันพุ่งหนุนหุ้นพลังงานบางส่วนปรับขึ้นสวนตลาด


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้ (23 ตุลาคม 2568) ดัชนีตลาดในภูมิภาคส่วนใหญ่ปรับตัวลง อย่างดัชนีนิกเกอิ ตลาดหุ้นญี่ปุ่น เปิดที่ 48,664.74 จุด ลดลง 121.46 จุด หรือ -0.25% ดัชนีฮั่งเส็ง ตลาดหุ้นฮ่องกง เปิดที่ 17,782.74 จุด ลดลง 376.35 จุด หรือ -2.07% ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิต ตลาดหุ้นจีน อยู่ที่ 3,886.13 จุด ลดลง 27.65 จุด หรือ -0.72% ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ ปรับตัวลง 11.45 จุด หรือ -0.29% ที่ระดับ 3,889.81 จุด

ส่วน ดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลีย เปิดบวกเล็กน้อยที่ 9,333.30 จุด เพิ่มขึ้น 12.20 จุด หรือ +0.13% จากแรงหนุนกลุ่มพลังงาน หลังราคาน้ำมัน WTI ปรับขึ้น 1.26 ดอลลาร์ ปิดที่ 58.50 ดอลลาร์/บาร์เรล

ภาวะการลงทุนในตลาดหุ้นภูมิภาคเอเชียส่วนใหญ่ปรับตัวลดลง ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดลบเมื่อวันพุธ (22 ตุลาคม) เนื่องจากนักลงทุนได้รับแรงกดดันจากความกังวลเกี่ยวกับมาตรการควบคุมการส่งออกสินค้าของสหรัฐฯ ไปยังประเทศจีน ซึ่งอาจนำไปสู่ความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศในระดับที่สูงขึ้นอีกครั้ง

โดยดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ระดับ 46,590.41 จุด ลดลง 334.33 จุด หรือร้อยละ 0.71 ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 6,699.40 จุด ลดลง 35.95 จุด หรือร้อยละ 0.53 และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 22,740.40 จุด ลดลง 213.27 จุด หรือร้อยละ 0.93

ตลาดหุ้นนิวยอร์กปรับตัวลดลง หลังมีรายงานว่า รัฐบาลสหรัฐฯ ภายใต้การนำของประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ กำลังพิจารณาใช้มาตรการควบคุมการส่งออกสินค้าที่ผลิตโดยใช้ซอฟต์แวร์ของสหรัฐฯ ไปยังประเทศจีน ซึ่งสินค้าดังกล่าวครอบคลุมตั้งแต่คอมพิวเตอร์แล็ปท็อปจนถึงเครื่องยนต์เครื่องบิน โดยมาตรการนี้มีขึ้นเพื่อตอบโต้จีนที่ได้ประกาศจำกัดการส่งออกแร่หายาก ถือเป็นการยกระดับความตึงเครียดทางการค้าระหว่างสองประเทศอีกครั้ง

ในส่วนของตลาดน้ำมันดิบ สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดบวกกว่า 2% ในวันพุธ (22 ตุลาคม 2568) โดยได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลสหรัฐฯ ประกาศคว่ำบาตรบริษัทน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย รวมถึงรายงานสต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐฯ ที่ปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่ผ่านมา สะท้อนถึงความต้องการใช้น้ำมันที่ยังคงอยู่ในระดับแข็งแกร่ง

Back to top button