สหรัฐคว่ำบาตร 2 บริษัทน้ำมันรัสเซีย

ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบโลก ปรับขึ้นกว่า 7% ทำสถิติสูงสุดรอบ 4 เดือน หลังสหรัฐอเมริกา ประกาศคว่ำบาตร บริษัท ลูโคอิล จำกัด (LUKOIL) และบริษัท รอสเนฟท์ จำกัด (ROSNEFT)


ปลายสัปดาห์ที่ผ่านมา ราคาน้ำมันดิบโลก ปรับขึ้นกว่า 7% ทำสถิติสูงสุดรอบ 4 เดือน หลังสหรัฐอเมริกา ประกาศคว่ำบาตร บริษัท ลูโคอิล จำกัด (LUKOIL) และบริษัท รอสเนฟท์ จำกัด (ROSNEFT) ซึ่งเป็นผู้ผลิตน้ำมันรายใหญ่ของรัสเซีย คิดเป็นเกือบ 50% ของการส่งออกน้ำมันรัสเซีย

“ด้วยกล่าวหาว่ารัสเซียขาดความมุ่งมั่นต่อการยุติสงครามยูเครนและรัฐบาลมอสโกจัดการฝึกซ้อมอาวุธนิวเคลียร์ครั้งใหญ่”

มาตรการคว่ำบาตรครั้งใหม่ เกิดขึ้นหนึ่งวันหลังจากแผนการประชุมสุดยอดระหว่างประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ของสหรัฐฯ และประธานาธิบดีวลาดิเมียร์ ปูติน ของรัสเซียล้มเหลว โดยทรัมป์ กล่าวกับผู้สื่อข่าวว่า “เขายกเลิกการประชุมเพราะเขารู้สึกว่าเป็นสิ่งที่ไม่ถูกต้อง”

กระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า บริษัทน้ำมันรายใหญ่สุด 2 แห่งของรัสเซีย คือ  Rosneft และ Lukoil ตกเป็นเป้าหมายเพื่อทำลายความสามารถของรัฐบาลมอสโก ในการระดมทุนให้กับกลไกที่ขับเคลื่อนสงครามดังกล่าว

การเคลื่อนไหวครั้งนี้ ถือว่าเป็นจุดเปลี่ยนสำคัญสำหรับทำเนียบขาว ที่เปลี่ยนทิศทางมาเป็นกดดันรัฐบาลมอสโก มากขึ้นจากเดิมที่ใช้วิธีการปรองดองเพื่อรักษาสันติภาพในยูเครน หลังจากสัปดาห์ก่นหน้า “ทรัมป์” ดูเหมือนว่าพร้อมชะลอการดำ เนินมาตรการใหม่ ๆ มุ่งเป้าไปที่รัฐบาลมอสโก

“สก็อตต์ เบสเซนต์” รัฐมนตรีว่าการกระทรวงการคลังสหรัฐฯ ระบุว่า “ถึงเวลาแล้วที่จะยุติการสังหารและหยุดยิงทันที” ขณะที่ราคาน้ำมันปรับตัวสูงขึ้นอย่างต่อเนื่อง หลังจากคำกล่าวของเบสเซนต์ โดยปรับขึ้นมากกว่า 2 ดอลลาร์สหรัฐต่อบาร์เรล

ตลอดช่วงหลายเดือนที่ผ่านมา “ทรัมป์” ได้ต่อต้านแรงกดดันจากสมาชิกรัฐสภาสหรัฐฯ หลายคนที่จะออกมาตรการคว่ำบาตรด้านพลังงาน โดยหวังว่าปูตินจะยอมยุติการสู้รบ แต่สถานการณ์ยังไม่สิ้นสุด

ขณะที่ทำเนียบเครมลินของรัสเซีย มีการเผยแพร่วิดีโอที่แสดงให้เห็นถึงพลเอกวาเลอรี เกราซิมอฟ (Valery Gerasimov) เสนาธิการทหารบก รายงานการฝึกซ้อมกองทัพต่อปูติน เพื่อแสดงแสนยานุภาพครั้งล่าสุด โดยรัสเซีย ระบุว่าได้ยิงขีปนาวุธหลายลูกจากเครื่องยิงภาคพื้นดิน, เรือดำน้ำ และอากาศยาน รวมถึงขีปนาวุธข้ามทวีป ที่สามารถโจมตีสหรัฐฯ ได้

กระทรวงกลาโหมรัสเซีย ระบุว่า เครื่องบินทิ้งระเบิดเชิงยุทธศาสตร์พิสัยไกล Tu-22M3 บินเหนือทะเลบอลติก โดยมีเครื่องบินขับไล่จากต่างประเทศ โดยคาดว่าเป็น NATO คุ้มกันตามจุดต่าง ๆ

ช่วงเวลาสำคัญของสงครามยูเครน “ปูติน” ส่งสัญญาณเตือนถึงพลังนิวเคลียร์รัสเซีย เพื่อเตือนรัฐบาลเคียฟ และบรรดาพันธมิตรชาติตะวันตก

ขณะที่ประเทศสมาชิกสหภาพยุโรป (EU) ได้อนุมัติมาตรการคว่ำบาตรชุดที่ 19 ต่อรัสเซียในสงครามกับยูเครน รวมถึงการห้ามนำเข้าก๊าซธรรมชาติเหลวจากรัสเซีย

จากสถานการณ์ความตึงเคลียดดังกล่าว นั่นทำให้เห็นแนวโน้ม “ราคาน้ำมันดิบโลก” มีโอกาสปรับขึ้นอย่างมีนัยสำคัญ ซ้ำเติมและกดดันการฟื้นตัวขอเศรษฐกิจโลกอย่างหลีกเลี่ยงไม่ได้..!!

Back to top button