
CGSI แนะซื้อ CENTEL รับท่องเที่ยวฟื้น หนุนรายได้ “โรงแรม” ปี 69 โตแรง ชูเป้า 44 บาท
CGSI อัพคำแนะนำ CENTEL เป็น “ซื้อ” มองอุตสาหกรรมท่องเที่ยวปี 69 ฟื้นตัวเด่น หนุนรายได้โรงแรมโต 19% จากแรงผลักดันโรงแรมในมัลดีฟส์และต่างจังหวัด รวมถึงนักท่องเที่ยวต่างชาติที่เพิ่มขึ้น พร้อมคาดธุรกิจอาหารได้อานิสงส์จากมาตรการลดหย่อนภาษีเที่ยวไทย
ฝ่ายวิเคราะห์ บริษัทหลักทรัพย์ ซีจีเอส อินเตอร์เนชั่นแนล (ประเทศไทย) จำกัด หรือ CGSI เปิดเผยบทวิเคราะห์ต่อบริษัท เซ็นทรัล รีสอร์ท แอนด์ โฮเทล จำกัด (มหาชน) หรือ CENTEL ภายหลังการเข้าร่วมงาน “Small/Mid cap conference call” ว่า แนวโน้มผลประกอบการธุรกิจโรงแรมในไตรมาส 4 ปี 2568 มีสัญญาณเชิงบวก โดยประมาณการรายได้ต่อห้องพัก (RevPAR) เติบโต 6-15% เมื่อเทียบกับช่วงเดียวกันของปีก่อน โดยเฉพาะโรงแรมในญี่ปุ่นและต่างจังหวัดของไทย ซึ่งใกล้เคียงกับประมาณการของฝ่ายวิเคราะห์ ส่วนในปี 2569 คาดรายได้จากธุรกิจโรงแรมขยายตัว 19% เมื่อเทียบกับปีก่อน จากเดิมที่คาดว่าจะลดลง 5% ในปี 2568
โดยปัจจัยขับเคลื่อนสำคัญในปีหน้า ได้แก่ ผลดำเนินงานที่ดีขึ้นของโรงแรมในมัลดีฟส์ที่เปิดดำเนินการในไตรมาส 4 ปี 2568 และไตรมาส 2 ปี 2568 ประกอบกับการฟื้นตัวของสถิตินักท่องเที่ยวชาวต่างชาติของไทย ซึ่งจะช่วยสนับสนุนรายได้อย่างมีนัยสำคัญ อีกทั้งฐานที่ต่ำในปี 2567 ยังช่วยส่งผลบวกต่อการเติบโตในปี 2569
ด้านมาตรการกระตุ้นการท่องเที่ยวของภาครัฐ โดยให้ประชาชนนำค่าใช้จ่ายท่องเที่ยวมาลดหย่อนภาษีบุคคลธรรมดาได้สูงสุด 20,000 บาท ระหว่างวันที่ 29 ตุลาคม ถึง 15 ธันวาคม 2568 แม้จะมองว่าอาจไม่ช่วยกระตุ้นอุตสาหกรรมท่องเที่ยวภายในประเทศมากนักจากภาวะเศรษฐกิจชะลอตัวและความระมัดระวังการใช้จ่ายของประชาชน แต่คาดว่าจะเป็นแรงหนุนต่อธุรกิจอาหารของ CENTEL ในระดับหนึ่ง โดยอ้างอิงข้อมูลการเติบโตของยอดขายสาขาเดิม (SSSG) ในปี 2567 ที่ปรับตัวดีขึ้นช่วงมีมาตรการลดหย่อนภาษีเช่นกัน
พร้อมปรับคำแนะนำ CENTEL จาก “ถือ” เป็น “ซื้อ” จากภาพรวมการท่องเที่ยวฟื้นตัวชัดเจน โดยคาดจำนวนนักท่องเที่ยวต่างชาติในปี 2569 เพิ่มขึ้น 5% เป็น 34.1 ล้านคน และเพิ่มอีก 5% เป็น 35.8 ล้านคนในปี 2570 เทียบกับคาดการณ์ปี 2568 ที่ลดลง 9% เหลือ 32.5 ล้านคน ภายใต้ความเสี่ยงด้านความปลอดภัย ภัยธรรมชาติ ความตึงเครียดบริเวณชายแดน และเงินบาทแข็งค่า
ทั้งนี้ ฝ่ายวิเคราะห์ได้ปรับปีฐานการประเมินมูลค่าหุ้นเป็นสิ้นปี 2569 ทำให้ได้ราคาเป้าหมายใหม่ที่ 44 บาท คิดเป็นอัตราส่วน EV/EBITDA ที่ 10.75 เท่าในปี 2570 ใกล้ระดับ -0.75 ส่วนเบี่ยงเบนมาตรฐานจากค่าเฉลี่ย 10 ปี พร้อมประเมินว่าหุ้นยังมีปัจจัยบวกเพิ่มเติม หากนักท่องเที่ยวจีนฟื้นตัว และผลดำเนินงานโรงแรมในมัลดีฟส์ดีกว่าคาด อย่างไรก็ตาม การลดลงของ RevPAR โรงแรมในญี่ปุ่น และค่าใช้จ่าย SG&A ที่สูงขึ้นจากการซื้อกิจการโรงแรมใหม่ในเมืองโอซาก้า ยังเป็นความเสี่ยงที่ต้องติดตาม
