‘ทรัมป์-ทาคาอิจิ’ คำหวานซ่อนรูป.!?

ปรากฏการณ์ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยกย่องญี่ปุ่นว่าเป็นพันธมิตรสหรัฐฯ พร้อมตอกย้ำความสัมพันธ์อันดีที่มีมายาวนานและชื่นชมนายกรัฐมนตรีคนใหม่


ปรากฏการณ์ที่ประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ยกย่องญี่ปุ่นว่าเป็นพันธมิตรสหรัฐฯ พร้อมตอกย้ำความสัมพันธ์อันดีที่มีมายาวนานและชื่นชมนายกรัฐมนตรีคนใหม่ ซานาเอะ ทาคาอิจิ ในแผนการเพิ่มงบประมาณด้านกลาโหม ช่วงระหว่างทั้ง 2 คนพบกันที่กรุงโตเกียว

ถือเป็น “การหยอดคำหวาน” ของทรัมป์ ที่มีนัยสำคัญยิ่ง..กับการเดินทางเยือนเอเชียครั้งนี้..!!

“ทรัมป์” ระบุว่า สิ่งใดที่ญี่ปุ่นต้องการความช่วยเหลือใด ๆ หรือสิ่งใดที่เขาสามารถช่วยญี่ปุ่นได้จะพร้อมช่วยเหลือเสมอสหรัฐฯ และญี่ปุ่นเป็นพันธมิตรที่แข็งแกร่งสุด และหวังว่าทั้ง 2 ฝ่าย จะสามารถผ่านพ้นข้อพิพาททางการค้าไปได้ โดยสหรัฐฯ และญี่ปุ่น จะทำการค้าร่วมกันอย่างมหาศาล มากกว่าที่เคยเป็นมาและหวังว่าความสัมพันธ์ระหว่างสหรัฐฯ และญี่ปุ่นจะแข็งแกร่งกว่าที่เคยเป็นมา..!?

โดยทั้ง 2 ประเทศ มีการลงนามเอกสารต่าง ๆ เกี่ยวกับการค้าและแร่ธาตุสำคัญ มีวัตถุประสงค์เพื่อทำให้องค์ประกอบบางส่วนของข้อตกลงการค้าที่ดำเนินการ ภายใต้การนำของอดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น “ชิเงรุ อิชิบะ” เป็นทางการ รวมถึงคำมั่นสัญญาที่คลุมเครือที่ให้ญี่ปุ่นสนับสนุนเงินทุน 550,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐ..หลายโครงการของสหรัฐฯ

ขณะที่เอกสารของทำเนียบขาว บ่งชี้ว่าข้อตกลงต่าง ๆ เหล่านี้ยังไม่ชัดเจน เอกสารการค้าดังกล่าวแสดงให้เห็นเพียงความพึงพอใจในความพยายามอย่างรวดเร็วและต่อเนื่องของทั้ง 2 ประเทศ และยืนยันถึงความมุ่งมั่นอย่างแรงกล้า ในการดำเนินการตามข้อตกลงการค้าของทั้งสองประเทศ

ข้อตกลงแร่ธาตุสำคัญยังมีรายละเอียดไม่มากนักโดยทั้ง 2 ประเทศให้คำมั่นว่าจะประสานงานกันเรื่องการอนุญาต, การจัดหาเงินทุนและการจัดทำแผนที่ต่าง ๆ

แต่ทั้งคู่กล่าวยกย่องกันและกันเป็นส่วนใหญ่ “ทาคาอิจิ” บอกกับ “ทรัมป์” ว่า เธอจะเสนอชื่อทรัมป์ เข้าชิงรางวัลโนเบลสาขาสันติภาพจากความพยายามทางการทูตหลายครั้งของทรัมป์ ขณะที่ “ทรัมป์” ได้มอบหมวกกอล์ฟ ที่มีลายเซ็นพร้อมข้อความตัวหนังสือสีทองว่า “ญี่ปุ่นกลับมาแล้ว” ให้นายกรัฐมนตรีทาคาอิจิ..

โดย “ทรัมป์” กล่าวยกย่องความสัมพันธ์ระหว่างทาคาอิจิกับชินโซ อาเบะ พันธมิตรใกล้ชิดของประธานาธิบดีสหรัฐฯ ผู้ถูกลอบสังหารระหว่างการปราศรัยหาเสียงปี 2565 และ “ทาคาอิจิ” เป็นศิษย์ที่ได้รับการอุปถัมภ์ของอดีตนายกรัฐมนตรีอาเบะ

หลังจากรับประทานอาหารกลางวันแบบส่วนตัว ทั้งคู่ได้พบปะกับหลายครอบครัวชาวญี่ปุ่นที่รัฐบาลโตเกียว ระบุว่า ถูกเกาหลีเหนือลักพาตัวไปช่วงทศวรรษปี 2513 และ 2523 

การพบปะครั้งนี้ ถือเป็นบททดสอบสำคัญสำหรับนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่นคนใหม่ ที่ได้รับเลือกเป็นนายกรัฐมนตรีหญิงคนแรกของญี่ปุ่นเมื่อต้นเดือนต.ค.ที่ผ่านมา พรรคเสรีประชาธิปไตย (LDP) ของเธอกำลังพลิกฟื้นจากเรื่องอื้อฉาวเกี่ยวกับเงินสินบนที่ทุจริต เป็นเหตุให้นายกรัฐมนตรี 2 คนลาออก และ “ทาคาอิจิ” กำลังเป็นผู้นำดำเนินการตามข้อตกลงการค้านี้..

สำหรับ “ทาคาอิจิ” กำลังเผชิญปัญหาหนี้ของประเทศที่รัดตัว และกำลังพยายามเร่งเพิ่มการใช้จ่ายด้านกลาโหม เป็นอีกหนึ่งภารกิจที่ “ทรัมป์” ให้ความสำคัญ มีแรงจูงใจที่จะคงรายละเอียดบางส่วนของข้อตกลงการค้าไว้อย่างหลวม ๆ

ทั้ง 2 ประเทศอธิบายกองทุนเพื่อการลงทุนนี้ไว้แตกต่างกันจากก่อนหน้านี้ “ทรัมป์” ระบุว่า เงิน 550,000 ล้านดอลลาร์สหรัฐเป็นเงินที่รัฐบาลสหรัฐฯ สามารถลงทุนได้ตามต้องการ โดยสัดส่วน 90% ของกำไรจะมอบให้สหรัฐฯ ขณะที่อดีตนายกรัฐมนตรีญี่ปุ่น “ชิเงรุ อิชิบะ” กล่าวว่า รัฐบาลญี่ปุ่นจะเสนอแผนการลงทุนที่รวมถึงเงินให้สินเชื่อ และการค้ำประกันสินเชื่อ โดยระบุว่าเป็นวิธีการสนับสนุนโครงการต่าง ๆ ของบริษัทของญี่ปุ่นในสหรัฐฯ..!!

แหละนี่คือ “คำหวานซ่อนรูป” ที่ต้องการส่งสัญญาณถึงรัฐบาลปักกิ่งอย่างมีนัยสำคัญเลยทีเดียว..

Back to top button