
แนวรับ 1,300 จุด เอาอยู่ไหม?
ตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปิดที่ 1,309.50 จุด ลบไป 5.15 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.26 หมื่นล้านบาท เจอแรงขายทำกำไรออกมาอย่างชัดเจน
ตลาดหุ้นไทยเมื่อวันศุกร์ที่ผ่านมา ปิดที่ 1,309.50 จุด ลบไป 5.15 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.26 หมื่นล้านบาท เจอแรงขายทำกำไรออกมาอย่างชัดเจน สอดคล้องกับบรรยากาศการลงทุนในตลาดต่างประเทศ หลัง “เฟด” ส่งสัญญาณว่าจะลดดอกเบี้ยช้ากว่าที่คาด ทำให้ในช่วงสั้นเงินทุนไหลเข้าตลาดเอเชียชะลอตัวลง “โมนิก้า” เชื่อว่าการแกว่งตัวของดัชนีในสัปดาห์นี้ยังคงแกว่งในกรอบจำกัด แต่ก็ต้องจับตาแนวรับ 1,300 จุด ว่าจะยืนได้หรือไม่เพคะ
อย่างไรก็ดี ภาพรวมในไทยช่วงถัดไปหุ้นที่พึ่งพาการบริโภคในประเทศอาจเผชิญแรงกดดัน เพราะเศรษฐกิจในเดือน ส.ค.-ก.ย. ฟื้นตัวค่อนข้างช้า ขณะที่เงินกระตุ้นเศรษฐกิจเพิ่งเข้ามาในสัปดาห์สุดท้ายของเดือน ต.ค.ส่งผลให้เกิดแรงขายทำกำไรก่อน ขณะเดียวกันหุ้นที่มีปัจจัยเฉพาะตัวหรือมีผลประกอบการคาดว่าจะดี ยังค่อนข้างมั่นคงและนักลงทุนยังเก็งกำไรต่อเนื่อง ดังนั้น “โมนิก้า” แนะนำให้เน้นเลือกหุ้นเป็นรายตัวเข้าลงทุนนะเพคะ
อย่างเช่นรายของ CPN ที่ยังคงร้อนแรงในสายตานักลงทุน หลังนักวิเคราะห์หลายสำนักประเมินว่า งบไตรมาส 3/68 จะออกมาแจ่มว้าวกำไรพุ่งทะลุ 5 พันล้านบาท โตแรง 22% จากปีก่อน ด้วยแรงหนุนธุรกิจให้เช่าพื้นที่ที่ยังโตไม่หยุด ส่งผลให้แรงเก็งกำไรเข้ามาเพียบ ดันราคาหุ้นปิดที่ 53.75 บาท บวกไป 1.25 บาท หรือขึ้นไป 2.38% มูลค่าซื้อขาย 378 ล้านบาทเลยทีเดียว “โมนิก้า” มองว่า สตอรี่การเติบโตยังสดใสที่สุดฮอต เพราะเป้าหมายที่กูรูให้ไว้แถว 80 บาท ยังเหลืออัพไซด์อีกราว …% งานนี้ถ้าถือยาวหน่อย มีลุ้นสวยได้อีกหลายเด้งเพคะ
เหมือนกับรายของ MINT ที่ช่วงนี้ออร่าความสดใสจับสุด ๆ เพราะเข้าสู่ไฮซีซั่นของการท่องเที่ยวแบบเต็มตัว ส่งผลให้แนวโน้มผลประกอบการฟื้นตัวแรงจากยอดจองโรงแรมในยุโรปที่เติบโตแข็งแกร่ง แถมยังมีข่าวดีจากการทยอยเปิดโรงแรมที่ปรับปรุงแล้วเสร็จ เข้ามาเสริมรายได้อีกแรงประกอบกับแนวโน้มดอกเบี้ยที่เริ่มลดลง ยิ่งเป็นปัจจัยบวกต่อธุรกิจโรงแรมที่มีต้นทุนทางการเงินสูง ทำให้แรงซื้อกลับเข้ามาอย่างคึกคัก ดันราคาหุ้นปิดที่ 23 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 1.77% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 239 ล้านบาท “โมนิก้า” มองว่า สัญญาณแบบนี้บ่งบอกว่าไมเนอร์กำลังจะกลับมาเปล่งประกายอีกครั้งในปลายปีนี้แน่ ๆ จ้ะ
ในส่วนของราย TU ช่วงนี้เริ่มมีเสียงลือเสียงเล่าอ้างดังขึ้นเรื่อย ๆ ว่า ไตรมาส 3/68 จะออกมาสวยไม่เบา รวมถึงไตรมาส 4/68 เพราะเข้าสู่ช่วงเทศกาลปลายปีที่ยอดบริโภคอาหารโดยเฉพาะทูน่ากระป๋องมักพุ่งแรงตามฤดูกาล งานนี้เลยกลายเป็นสตอรี่บวกที่กระตุ้นแรงซื้อให้เข้ามาอีกระลอก ส่งผลให้ราคาหุ้นขยับขึ้นมาปิดที่ระดับ 13.10 บาท บวกไป 0.40 บาท หรือขึ้นไป 3.15% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 189 ล้านบาท ทำเอาหลายคนเริ่มกลับมาจับตารายนี้อีกครั้ง “โมนิก้า” มองว่า ถ้าโมเมนตัมดีแบบนี้ต่อเนื่อง มีลุ้นเห็นราคาหุ้น วิ่งทะลุแนวต้าน 13 บาท เป้าถัดไป 13.60-14.00 บาทเพคะ
ขณะที่รายของ KBANK ก็ฮอตไม่แพ้ใคร เพราะหลังจากมีข่าวประกาศออกมาว่า จะควักเงินไม่เกิน 8.80 พันล้านบาท เพื่อเดินหน้าโครงการ ซื้อหุ้นคืนจำนวน 47.39 ล้านหุ้น ระหว่างวันที่ 14 พ.ย. 68–13 พ.ค. 69 งานนี้เรียกได้ว่าเป็น “สัญญาณหัวใจพองโต” ให้เหล่านักลงทุนรีบเข้ามาเก็งกำไรต่อเนื่องทันที ส่งผลให้ราคาหุ้นขยับขึ้นมาปิดที่ระดับ 186.50 บาท บวกไป 1 บาท หรือขึ้นไป 0.54% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 2.98 พันล้านบาท “โมนิก้า” มองว่า ข่าวซื้อหุ้นคืนรอบนี้ถือเป็นหมัดเด็ดที่ช่วยพยุงราคาและสร้างความมั่นใจให้ผู้ถือหุ้นได้ไม่น้อยเลยเพคะ
ปิดท้ายด้วยโรงพยาบาลผู้นำลุ่มแม่น้ำโขงอย่าง HANN ที่จู่ ๆ ราคาหุ้นดีดตัวแรงขึ้นมาแบบไม่มีปี่มีขลุ่ย ปิดที่ระดับ 1.03 บาท บวกไป 0.06 บาท หรือขึ้นไป 6.19% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 52 ล้านบาท ทำเอานักลงทุนหันมามองตาปริบ ๆ ว่าเกิดอะไรขึ้น “โมนิก้า” มองว่านี่อาจเป็น รอบเก็งกำไรใหม่ จากปัจจัยฤดูกาลที่เข้าช่วงปลายปี ซึ่งมักมีจำนวนผู้ป่วยเพิ่มขึ้นจาก โรคไข้เลือดออกและไข้หวัดตามฤดูกาล ส่งผลให้รายได้ฝั่งโรงพยาบาลมีแนวโน้มขยับขึ้นอีกระลอกหนึ่ง… งานนี้ถ้าแรงซื้อมาต่อเนื่อง มีสิทธิ์เห็นราคาหุ้นฟื้นสวยรับลมหนาวเลยเพคะ
โมนิก้าและทีมงาน