“หุ้นเอเชีย” เปิดลบ นักลงทุนหมดหวัง “ลดดอกเบี้ย” ธ.ค.นี้-กลุ่มเทคร่วงหนัก

ผู้สื่อข่าวรายงาน ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดลบในวันนี้ (21 พ.ย.) ตามทิศทางตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ปิดร่วงลงในวันพฤหัสบดี (20 พ.ย.) เนื่องจากหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีอ่อนแรงลงหลังจากที่พุ่งขึ้นขานรับผลประกอบการของบริษัท Nvidia ในระหว่างวัน นอกจากนี้ ตลาดยังถูกกดดันจากการที่นักลงทุนลดความคาดหวังว่าธนาคารกลางสหรัฐฯ (เฟด) จะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมเดือนธ.ค. หลังสหรัฐฯ เปิดเผยตัวเลขจ้างงานนอกภาคเกษตรที่แข็งแกร่งเกินคาด

ดัชนีนิกเกอิตลาดหุ้นญี่ปุ่นเปิดที่ระดับ 49,251.26 จุด ลดลง 572.68 จุด หรือ -1.15%, ดัชนีฮั่งเส็งตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,460.42 จุด ลดลง 375.15 จุด หรือ -1.45% และดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,896.66 จุด ลดลง 34.39 จุด หรือ -0.87%

ดัชนี KOSPI ตลาดหุ้นเกาหลีใต้ร่วงลง 4.09% และดัชนี S&P/ASX 200 ตลาดหุ้นออสเตรเลียปรับตัวลง 1.3%

หุ้น SoftBank ซึ่งเป็นบริษัทเทคโนโลยีรายใหญ่ของญี่ปุ่น ดิ่งลงกว่า 10% ในช่วงเช้าวันนี้ ตามทิศทางหุ้นกลุ่มเทคโนโลยีในตลาดหุ้นนิวยอร์กที่ดิ่งลงในวันพฤหัสบดี เนื่องจากนักลงทุนยังคงวิตกกังวลว่าหุ้นในกลุ่มเทคโนโลยีปัญญาประดิษฐ์ (AI) มีมูลค่าที่สูงเกินไปและอาจทำให้เกิดภาวะฟองสบู่ในหุ้นกลุ่มนี้ แม้เจนเซน หวง ประธานเจ้าหน้าที่บริหารของ Nvidia กล่าวกับนักลงทุนในระหว่างการเปิดเผยผลประกอบการครั้งล่าสุดว่า แม้นักวิเคราะห์มีการพูดถึงภาวะฟองสบู่ในธุรกิจ AI แต่ Nvidia เห็นต่างอย่างมากในเรื่องนี้

กระทรวงแรงงานสหรัฐฯ เปิดเผยว่า ตัวเลขการจ้างงานนอกภาคเกษตรพุ่งขึ้น 119,000 ตำแหน่งในเดือนก.ย. สูงกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้นเพียง 53,000 ตำแหน่ง ข้อมูลดังกล่าวทำให้นักลงทุนไม่มั่นใจว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยลงอีกหรือไม่ในการประชุมเดือนธ.ค. โดยล่าสุดนักลงทุนให้น้ำหนักไม่ถึง 40% ในการคาดการณ์ว่าเฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในการประชุมครั้งนี้

สำหรับข้อมูลเศรษฐกิจในเอเชียที่จะมีการเปิดเผยเช้านี้รวมถึง ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนต.ค.ของเกาหลีใต้, อัตราเงินเฟ้อและดุลการค้าเดือนต.ค.ของญี่ปุ่น นอกจากนี้ S&P Global จะเปิดเผยดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตและภาคบริการขั้นต้นเดือนพ.ย.ของออสเตรเลียและญี่ปุ่น