“หุ้นเอเชีย” สดใส รับสัญญาณ “เฟด” ลดดอกเบี้ย ธ.ค.นี้

“ตลาดหุ้นเอเชีย” เปิดบวก จากความคาดหวังเฟดลดดอกเบี้ย หลัง “วิลเลียมส์” ประเมินเศรษฐกิจอาจได้รับผลกระทบจากตลาดแรงงานอ่อนแอ ทำให้นักลงทุนให้น้ำหนักสูงต่อการปรับลดดอกเบี้ยปลายปีนี้


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า ตลาดหุ้นเอเชีย เปิดปรับตัวเพิ่มขึ้นในช่วงเช้าวันนี้ (24 พฤศจิกายน 2568) หลัง นายจอห์น วิลเลียมส์ ประธานธนาคารกลางสหรัฐอเมริกา สาขานิวยอร์ก ส่งสัญญาณว่า ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอาจพิจารณาปรับลดอัตราดอกเบี้ยภายในปีนี้ จากความกังวลต่อความอ่อนแอของตลาดแรงงานซึ่งอาจส่งผลกระทบต่อเศรษฐกิจมากกว่าแรงกดดันด้านเงินเฟ้อ

โดยดัชนีฮั่งเส็งของตลาดหุ้นฮ่องกงเปิดที่ระดับ 25,452.87 จุด เพิ่มขึ้น 232.85 จุด หรือร้อยละ 0.92 ขณะที่ดัชนีเซี่ยงไฮ้คอมโพสิตของตลาดหุ้นจีนเปิดที่ระดับ 3,848.66 จุด เพิ่มขึ้น 13.77 จุด หรือร้อยละ 0.36 ส่วนดัชนีหุ้นเกาหลีใต้เคโอเอสพีไอปรับตัวขึ้นร้อยละ 1.28 และดัชนีเอสแอนด์พี/เอเอสเอ็กซ์ 200 ของตลาดหุ้นออสเตรเลียดีดตัวขึ้นร้อยละ 1.08 ขณะที่ตลาดหุ้นญี่ปุ่นปิดทำการเนื่องในวันขอบคุณแรงงาน

นายวิลเลียมส์ ระบุเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายนว่า อัตราดอกเบี้ยปัจจุบันที่ระดับร้อยละ 3.75 ถึงร้อยละ 4.00 ยังคงอยู่ในระดับตึงตัว และมีความเป็นไปได้ที่เฟดจะปรับลดอัตราดอกเบี้ยในระยะใกล้ เพื่อให้นโยบายการเงินกลับเข้าใกล้ระดับที่เป็นกลางมากขึ้น พร้อมย้ำว่าความอ่อนแอในตลาดแรงงานอาจบั่นทอนเศรษฐกิจรุนแรงกว่าแรงกดดันเงินเฟ้อที่ปรับตัวสูงขึ้น

ทั้งนี้ ถ้อยแถลงดังกล่าวทำให้นักลงทุนคาดการณ์ว่าในการประชุมวันที่ 9 ถึง 10 ธันวาคม ซึ่งเป็นการประชุมนัดสุดท้ายของปีนี้ ธนาคารกลางสหรัฐอเมริกาอาจตัดสินใจปรับลดอัตราดอกเบี้ยร้อยละ 0.25 โดยข้อมูลจากเครื่องมือซีเอ็มอี เฟดวอตช์ ทูล บ่งชี้ว่านักลงทุนให้น้ำหนักประมาณร้อยละ 70 ต่อความเป็นไปได้ดังกล่าว

ด้านการเคลื่อนไหวของหุ้นรายบริษัท หุ้นคิวบ์ โฮลดิงส์ ซึ่งเป็นบริษัทโลจิสติกส์รายใหญ่ของออสเตรเลีย พุ่งขึ้นร้อยละ 20 หลังบริษัทแมคควอรี แอสเซต แมเนจเมนต์ ยื่นข้อเสนอซื้อกิจการมูลค่า 11,600 ล้านดอลลาร์ออสเตรเลีย หรือคิดเป็น 7,490 ล้านดอลลาร์สหรัฐ ขณะที่หุ้นบีเอชพี บริษัทเหมืองแร่รายใหญ่ของออสเตรเลีย ปรับตัวขึ้นร้อยละ 0.7 หลังประกาศยุติการพิจารณาควบรวมกิจการกับบริษัทแองโกล อเมริกัน ซึ่งเป็นบริษัทเหมืองจากสหราชอาณาจักร

Back to top button