“สงขลา” วิกฤต! ประกาศภัยพิบัติทั้งจังหวัด–ผู้ว่าสั่งอพยพ “คนหาดใหญ่” หลังปริมาณน้ำสูงขึ้น

จังหวัดสงขลา ประกาศเขตภัยพิบัติครบ 16 อำเภอ หลังน้ำท่วมหนักต่อเนื่องจากฝนตกหลายวัน ส่งผลกระทบประชาชนกว่า 6 แสนคน โรงพยาบาล–ไฟฟ้า–ประปาได้รับผลกระทบเป็นวงกว้าง ขณะผู้ว่าฯ ระดมทุกหน่วยงานเร่งอพยพพื้นที่เสี่ยง รับมือระดับน้ำที่ยังเพิ่มขึ้นจากคลองอู่ตะเภา


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สถานการณ์น้ำท่วมในจังหวัดสงขลายกระทบหนักต่อเนื่อง โดยวันนี้ (24 พ.ย.68) เวลา 10:00 น. นายรัฐศาสตร์ ชิดชู ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ประกาศเขตภัยพิบัติครอบคลุมทั้ง 16 อำเภอ พร้อมสั่งการให้ทุกหน่วยงานเร่งอพยพประชาชนไปยังพื้นที่ปลอดภัย โดยเน้นช่วยเหลือกลุ่มเปราะบางเป็นพิเศษ และได้ประสานกำลังจากทหาร พลเรือน องค์กรปกครองส่วนท้องถิ่น และมูลนิธิต่าง ๆ ลงพื้นที่ช่วยเหลืออย่างเร่งด่วน

ช่วงเช้าวันเดียวกัน โรงพยาบาลหาดใหญ่ แจ้งว่า ตั้งแต่เวลา 08.30 น. มวลน้ำได้หนุนเข้าสู่บริเวณภายในโรงพยาบาล แนะนำให้ผู้ป่วยและผู้รับบริการใช้ระบบ Telemedicine เพื่อลดความเสี่ยง และหากมีการปรับเปลี่ยนการให้บริการจะแจ้งให้ทราบเพิ่มเติม ขณะที่การไฟฟ้าส่วนภูมิภาค เขต 3 (ภาคใต้) จังหวัดยะลา ระบุว่าระดับน้ำที่เพิ่มสูงทำให้จำเป็นต้องปลดดับไฟด่วน ส่งผลให้ถนน 30 เมตร ถนนศรีภูวนารถ พื้นที่หน้าโรงแรมบุรีศรีภู ห้างไดอาน่า และบริเวณสามแยกคลองเรียน ไม่สามารถจ่ายกระแสไฟฟ้าได้

ด้านการประปาส่วนภูมิภาคสาขาหาดใหญ่ รายงานว่า ระดับน้ำบริเวณโรงกรองน้ำสูงกว่า 3 เมตร สูงกว่าวิกฤตปี 2553 ทำให้ไม่สามารถเดินเครื่องผลิตและจ่ายน้ำประปาได้ ส่งผลกระทบต่อประชาชนในวงกว้าง

ขณะที่ กองอำนวยการป้องกันและบรรเทาสาธารณภัยจังหวัดสงขลา สรุปสถานการณ์ระหว่างวันที่ 20–23 พฤศจิกายน 2568 พบว่าทั้ง 16 อำเภอได้รับผลกระทบแล้ว รวม 115 ตำบล 821 หมู่บ้าน 167 ชุมชน มีผู้ได้รับผลกระทบ 243,568 ครัวเรือน รวม 635,423 คน ต้องอพยพ 1,224 คน และมีผู้เสียชีวิต 1 ราย โดยพื้นที่อำเภอหาดใหญ่ รัตภูมิ จะนะ นาหม่อม และสะเดา เป็นพื้นที่ที่มีสถานการณ์รุนแรงที่สุด หลายจุดเผชิญน้ำล้นตลิ่งจากคลองอู่ตะเภาไหลเข้าท่วมต่อเนื่อง และกำลังหนุนเข้าสู่เขตเมืองหาดใหญ่

ศูนย์อุตุนิยมวิทยาภาคใต้ฝั่งตะวันออก แจ้งเตือนว่า ระหว่างวันที่ 23–25 พฤศจิกายน 2568 จังหวัดสงขลายังคงมีฝนตกหนักหลายพื้นที่ มีความเสี่ยงเกิดน้ำท่วมฉับพลัน น้ำป่าไหลหลาก และดินโคลนถล่ม โดยเฉพาะพื้นที่ลุ่มต่ำและเชิงเขา ส่วนช่วงวันที่ 26–29 พฤศจิกายน 2568 แม้มรสุมตะวันออกเฉียงเหนือจะอ่อนกำลังลง แต่ยังจำเป็นต้องเฝ้าระวังระดับน้ำอย่างใกล้ชิดตลอด 24 ชั่วโมง

จังหวัดสงขลาได้ระดมกำลังทุกภาคส่วนช่วยเหลือประชาชนอย่างเต็มที่ โดยจัดตั้งโรงครัวพระราชทาน 2 แห่งในอำเภอหาดใหญ่ พร้อมสนับสนุนเครื่องสูบน้ำ 86 เครื่อง เรือท้องแบน 44 ลำ เรือยาง 21 ลำ และรถยกสูง 83 คัน เพื่อช่วยอพยพประชาชนจากพื้นที่เสี่ยง นอกจากนี้ หน่วยงานรัฐ ทหาร ปภ. อปท. มูลนิธิ และเครือข่ายจิตอาสา ยังร่วมแจกจ่ายข้าวกล่อง น้ำดื่ม ถุงยังชีพ รวมถึงอำนวยความสะดวกด้านการจราจรและขนย้ายสิ่งของขึ้นที่สูง พร้อมสนับสนุนกระสอบทรายให้กับชุมชนที่มีความเสี่ยงน้ำท่วมฉับพลัน

ผู้ว่าราชการจังหวัดสงขลา ระบุว่า ต้องติดตามระดับน้ำคลองอู่ตะเภาอย่างใกล้ชิด เนื่องจากเป็นคลองสายหลักของเมืองหาดใหญ่ที่ระดับน้ำยังเพิ่มสูงต่อเนื่อง ส่งผลให้หลายพื้นที่มีน้ำท่วมขยายวงกว้าง จึงสั่งการให้เร่งอพยพประชาชน โดยเฉพาะกลุ่มเปราะบาง พร้อมจัดตั้งมณฑลทหารบกที่ 42 เป็นศูนย์บัญชาการหลักในการประสานงานและปฏิบัติการช่วยเหลือ โดยย้ำว่า “ชีวิตประชาชนต้องมาก่อน” พร้อมขอให้ประชาชนติดตามข้อมูลจากทางราชการอย่างใกล้ชิด

ทั้งนี้ จังหวัดสงขลา ได้เปิดศูนย์พักพิงชั่วคราวเพิ่มเติม ได้แก่ มหาวิทยาลัยสงขลานครินทร์ อำเภอหาดใหญ่ มหาวิทยาลัยราชภัฏสงขลา อำเภอเมืองสงขลา สำนักงานส่งเสริมและสนับสนุนวิชาการ 11 สงขลา อำเภอเมืองสงขลา และโรงเรียนบริหารธุรกิจวิทยาสงขลา อำเภอเมืองสงขลา เพื่อรองรับผู้ประสบอุทกภัยจากพื้นที่ต่าง ๆ ของจังหวัด

Back to top button