
ฮอลิเดย์มู้ด!
ไม่น่าเชื่อว่า “Holiday Mood” จะมาเร็วกว่าที่หลายคนคาดไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มพูดถึงการท่องเที่ยวไปยังที่ต่าง ๆ หนาหูมากขึ้น หรือพูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือ อารมณ์เหมือนอยู่ในช่วงวันหยุดพักผ่อน
ไม่น่าเชื่อว่า “Holiday Mood” จะมาเร็วกว่าที่หลายคนคาดไว้ ซึ่งเป็นผลมาจากนักลงทุนส่วนใหญ่เริ่มพูดถึงการท่องเที่ยวไปยังที่ต่าง ๆ หนาหูมากขึ้น หรือพูดให้เข้าใจง่าย ๆ คือ อารมณ์เหมือนอยู่ในช่วงวันหยุดพักผ่อน ซึ่งเป็นการใช้ชีวิตที่เต็มไปด้วยความสุขสบาย และมีเวลาให้กับตัวเองในการทำกิจกรรมที่ชอบ เพื่อชาร์จพลังกาย และใจให้กลับสดชื่นอีกครั้ง หลังเจ็บตัวจากตลาดหุ้นบ่อยเหลือเกินพะยะค่ะ
ประเด็นดังกล่าวดูได้จากการเคลื่อนตัวของดัชนีในช่วง 3 เดือนครึ่ง ซึ่งวนเวียนไปมาในกรอบ 1,250-1,300 จุดนานเหลือเกิน และหากเข้าซื้อหุ้นผิดจังหวะเมื่อไหร่ มักลงเอยด้วยการตัดขาดทุนประจำ ซึ่งเป็นการวนลูปมาหลายครั้งด้วยกัน “โมนิก้า” ถึงอยากให้นักลงทุนประมวลเรื่องราวที่อีฉันเม้าท์มอยให้ฟังมีน้ำหนักขนาดไหน? แถมหลายอย่างไม่เป็นเหมือนที่คิดไว้เสียด้วย อีฉันเลยไม่กล้าฟันธงเจ้าค่ะ
ที่สำคัญคือ หากมองบรรยากาศการลงทุนไปถึงสิ้นปี 68 โดยมูลค่าการซื้อขายอยู่ในระดับ 3 หมื่นล้านบาทเป็นส่วนใหญ่ ก็เหมือนเป็นการย้ำหัวหมุดให้รู้ว่า สัปดาห์นี้ และสัปดาห์หน้า ก็คงไม่ดีขึ้นกว่าที่เป็นอยู่ เพราะเรื่องลดดอกเบี้ยคงไม่มีเอฟเฟกต์ด้านบวกอย่างมีนัยสำคัญ หลังดัชนีโซซัดโซเซตั้งแต่เปิดเทรด ก่อนจะยืนปิดที่ระดับ 1,256.85 จุด ลบไป 3.83 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 3.20 หมื่นล้านบาทแบบเหงา ๆ นะตัวเอง
เรื่องที่น่าคิดถัดมาคือ ราคาน้ำมันดิบในตลาดโลกอยู่ต่ำกว่าระดับ 60 เหรียญต่อบาร์เรลแบบนี้ แต่ทำไมราคาน้ำมันบ้านเราไม่ลงสักที! และเรื่องนี้ก็ทำให้อีฉันสงสัยเหลือเกินว่า PTTEP จะเป็นอย่างไรต่อจากนี้ หลัง 3 วันที่ผ่านมาราคาหุ้นพยายามรักษาฐาน 107 บาทแบบสุดตัว ขณะเดียวกันก็เป็นเวลา 2 เดือนที่หุ้นขึ้นไปยืนเหนือแนวต้าน 110 บาทไม่ได้สักทีนะนายจ๋า!
ส่วนรายที่ทำท่าจะขึ้นรอบใหม่อย่าง COM7 ก็มีประเด็นให้คิดไม่ใช่น้อยเหมือนกัน หลังราคาหุ้นพยายามยกตัวสวนแรงขายที่ออกมาเป็นระลอก แต่สุดท้ายก็ทำไม่สำเร็จเสียที จนในช่วง 1-2 วันที่ผ่านมามีแรงซื้อเข้ามาเป็นเรื่อย ๆ วานนี้จึงเห็นหุ้นขึ้นมายืนปิดที่ระดับ 21.10 บาท บวกไป 0.30 บาท หรือขึ้นไป 1.45% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 231 ล้านบาทท่ามกลาง PE 12 เท่าแบบนี้..คุณ ๆ ท่าน ๆ มองว่า มีลุ้นไหมล่ะคะ
สถานการณ์ตรงนี้ทำให้ “โมนิก้า” อยากเอ่ยถึงหุ้น IVL เป็นรายถัดมา หลังตกอยู่ในวงล้อมแรงขายเป็นเวลาหลายเดือน ผนวกกับไม่รู้ว่าไตรมาส 4 จะพลิกกลับมามีกำไรได้หรือเปล่า? อีฉันเลยไม่มั่นใจว่า การยืนปิดที่ระดับ 15.80 บาท บวกไป 0.10 บาท หรือขึ้นไป 0.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 346 ล้านบาท เหมาะต่อการตามน้ำไหม? แถมเที่ยวก่อนก็จอดป้ายบริเวณ 16 บาทเสียด้วย..อีฉันเลยไม่กล้าออกตัวแรงนะคะ
ตรงกันข้ามกับในรายของ TFG อย่างสิ้นเชิง เพราะเจ้านี้มีเรื่องผลงานหนุนหลัง แต่ราคาหุ้นยังไม่ไปไหนสักที และเมื่อดูการยืนปิดที่ระดับ 4.90 บาท บวกไป 0.08 บาท หรือขึ้นไป 1.65% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 125 ล้านบาท ท่ามกลาง PE 4 เท่า ก็ทำให้อีฉันมั่นใจได้ทันทีว่า นี่เป็นจังหวะของการเล่นตามน้ำอย่างแน่นอน แต่เผอิญในช่วง 2 เดือนที่ผ่านมาราคาหุ้นยังไม่ผ่านแนวต้าน 5 บาท จึงต้องลุ้นหนักนะจะบอกให้
ส่วนรายที่ผ่านมรสุมชีวิตมาอย่างโชกโชน และมีโอกาสลืมตาอ้าปากอีกครั้งอย่างหุ้น NEX ก็กลายเป็นช็อตสำหรับนักเล่นใจกล้า เพราะโปรเจกต์ระมูลรถเมล์ไฟฟ้า 1.50 หมื่นล้านที่กำลังจะเปิดในเร็ว ๆ นี้ อาจเป็นตัวชุบชีวิตใหม่ให้กับหุ้นตัวนี้ “โมนิก้า” ถึงอยากให้แฟนคลับประเมินการขึ้นมาปิดที่ระดับ 1.18 บาท บวกไป 0.04 บาท หรือขึ้นไป 3.50% ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 66 ล้านบาท มีนัยอะไรซ่อนไว้อะป่าว?
โมนิก้าและทีมงาน