จับตา 4 ประเด็นเด็ดประจำวันนี้ พร้อมชู 7 หุ้นเด่นพ่วงปัจจัยบวกเพียบ!

บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ (9 ม.ค.) เคลื่อนไหวผันผวนในกรอบจำกัด และมีโอกาสปรับตัวลง เนื่องจากตลาดยังไม่มีปัจจัยบวก/ลบใหม่เข้าสู่ตลาด ประกอบกับดัชนีที่ปรับตัวขึ้นแรงในช่วง 9 วันที่ผ่านมา (SET +4.5%) จะจูงใจให้นักลงทุนทยอยเทขายทำกำไร อย่างไรก็ตามเราคาดว่าดัชนีจะไม่ลดลงแรง เนื่องจากยังมีแรงหนุนจาก Fund Flow ต่างชาติที่ยังไหลเข้าในตลาดหุ้นภูมิภาคและตลาดหุ้นบ้านเราน่าจะช่วยพยุงดัชนีเอาไว้ได้ หุ้นในกลุ่มพลังงาน และปิโตรฯยังได้ผลบวกจากราคาน้ำมันดิบที่เพิ่มขึ้น ส่วนกลุ่มสื่อสาร และธนาคารน่าจะยังพักตัวเช่นเดียวกับที่เกิดขึ้นในวันศุกร์ที่ผ่านมา

ส่วนหุ้นขนาดกลางถึงเล็กน่าจะเห็นการสลับกลุ่มเก็งกำไร โดยวันนี้กลุ่มปิโตรฯเคมีขั้นปลาย (PTL ,TFI ,AJ) จะยังได้รับความสนใจต่อเนื่องจากสัปดาห์ที่แล้ว หลังจากราคาและส่วนต่างผลิตภัณฑ์ปรับตัวขึ้นต่อเนื่อง เช่น เดียวกับกลุ่มอสังหาฯ (LPN ,PSH ,LH ,SPALI) น่าจะมีแรงเก็งกำไรหลังจากมีข่าวกระทรวงการคลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นอสังหาฯรอบ 2 

ประเด็นสำคัญวันนี้

 (+) Fund Flow ต่างชาติยังซื้อสุทธิในตลาดหุ้นภูมิภาคต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 : เมื่อวันศุกร์นักลงทุนต่างชาติซื้อสุทธิในตลาดหุ้นภูมิภาคอีก US$289 ล้าน ต่อเนื่องเป็นวันที่ 4 และเป็นการเข้าซื้อในทุกตลาด โดยซื้อสุทธิมากที่สุดในตลาดหุ้นเกาหลีใต้ US$133 ล้าน ตามด้วยไต้หวัน US$86 ล้าน ส่วนกลุ่ม TIP ต่างชาติยังซื้อสุทธิมากที่สุดในตลาดหุ้นไทย US$54 ล้าน ตามด้วย อินโดฯ และฟิลิปปินส์ US$9.5 ล้าน และUS$7.33 ล้านตามลำดับ                                

(+) ดาวโจนส์เพิ่มขึ้น 64.5 จุด ขานรับตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของแรงงานเพิ่มขึ้นในเดือน ธ.ค. :แม้ในวันศุกร์ที่ผ่านมาสหรัฐจะรายงานตัวเลขการจ้างงานนอกภาคการเกษตรในเดือน ธ.ค.เพิ่มขึ้นเพียง 156,000 ตำแหน่งลดลงจาก 210,000 ตำแหน่งในเดือน พ.ย.และต่ำกว่าที่นักวิเคราะห์คาดว่าจะเพิ่มขึ้น 178,000 ตำแหน่ง อย่างไรก็ตามดัชนีตลาดหุ้นดาวโจนส์ยังเพิ่มขึ้น 64.5 ปิดที่ 19,963.80 จุด เนื่องจากนักลงทุนให้ความสำคัญต่อตัวเลขรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของแรงงานที่เพิ่มขึ้นซึ่งสะท้อนถึงการฟื้นตัวของเศรษฐกิจได้มากกว่า โดยรายได้เฉลี่ยต่อชั่วโมงของแรงงานในเดือนธ.ค. เพิ่มขึ้นสู่ระดับ 26 ดอลลาร์ หรือเพิ่มขึ้น 2.9%yoy

(+) คาดหวังกลุ่มผู้ผลิตน้ำมันดิบลดกำลังการผลิตตามข้อตกลงหนุนราคาน้ำมันดิบเพิ่มขึ้น  23 เซ็นต์ : เมื่อวันศุกร์ราคาน้ำมันดิบ WTI เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.43% ปิดที่ 53.99 ดอลลาร์/บาร์เรล ส่วนน้ำมันดิบ BRENT เพิ่มขึ้น 21 เซนต์ หรือ 0.37% ปิดที่ 57.10 ดอลลาร์/บาร์เรล เนื่องจากตลาดขานรับข่าวผู้ผลิตน้ำมันดิบเริ่มทยอยปรับลดกำลังการผลิตตามข้อตกลง นำโดย ซาอุฯ คูเวต และ สหรัฐอาหรับเอมิเรตส์

(+) กลุ่มอสังหาฯ (TOP Pick LH ซื้อ/เป้า 12 บาท) – เก็งกำไรข่าวกระทรวงการคลังเตรียมออกมาตรการกระตุ้นภาคอสังหาฯรอบที่ 2 เพื่อกระตุ้นภาคอสังหาฯให้กลับมาคึกคักอีกครั้ง โดยมาตรการน่าจะคล้ายกับครั้งที่ผ่านมาคือ ลดค่าธรรมเนียมการโอนจาก 2% เหลือ 0.01% และค่าจดจำนอง 1% เหลือ 0.01% พร้อมหักลดหย่อนภาษีเงินได้