
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้
สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 9 ม.ค.60
ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดลบ เมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) เนื่องจากราคาน้ำมันดิบที่ร่วงลงเกือบ 4% ได้ฉุดหุ้นกลุ่มพลังงานดิ่งลงด้วย อย่างไรก็ตาม ดัชนี NASDAQ ปิดตลาดที่ระดับสูงสุดเป็นประวัติการณ์ เพราะได้แรงหนุนจากการฟื้นตัวของหุ้นกลุ่มกลุ่มสุขภาพ ขณะที่นักลงทุนจับตารายงานผลประกอบการของธนาคารรายใหญ่ในสัปดาห์นี้ ซึ่งรวมถึงเจพีมอร์แกน และแบงก์ ออฟ อเมริกา
ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 19,887.38 จุด ลดลง 76.42 จุด หรือ -0.38% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,268.90 จุด ลดลง 8.08 จุด หรือ -0.35% ดัชนี NASDAQ ปิดที่ 5,531.82 จุด เพิ่มขึ้น 10.76 จุด หรือ +0.19%
ตลาดหุ้นยุโรปปิดลบ เมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) หลังจากบริษัทรายใหญ่ ซึ่งรวมถึงสายการบินลุฟฮันซา ได้ปรับลดคาดการณ์ผลประกกอบการ อย่างไรก็ตาม ตลาดได้รับแรงหนุนในระหว่างวัน จากการพุ่งขึ้นของหุ้นเฟียต ไครสเลอร์ หลังจากบริษัทประกาศทุ่มเงินกว่า 1 พันล้านดอลลาร์ เพื่อพัฒนาโรงงานผลิตรถยนต์ในสหรัฐ
ดัชนี Stoxx Europe 600 ปรับตัวลง 0.5% ปิดที่ 363.67 จุด
ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,887.57 จุด ลดลง 22.27 จุด หรือ -0.45% ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 11,563.99 จุด ลดลง 35.02 จุด หรือ -0.30% ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,237.77 จุด เพิ่มขึ้น 27.72 จุด หรือ +0.38%
ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวเพิ่มขึ้น เมื่อวานนี้ (9 ม.ค.) โดยดัชนี FTSE 100 ทำสถิติปิดที่ระดับสูงสุดต่อเนื่องเป็นวันที่ 8 ด้วยแรงหนุนจากการที่เงินปอนด์อ่อนค่าลง หลังจากนางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวให้สัมภาษณ์ต่อสื่อท้องถิ่นว่า อังกฤษพร้อมถอนตัวออกจากตลาดร่วมยุโรป ซึ่งเป็นการส่งสัญญาณว่าเธอจะผลักดันกระบวนการ Brexit อย่างแข็งกร้าว
ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดเพิ่มขึ้น 27.72 จุด หรือ 0.38% แตะที่ 7,237.77 จุด
สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลง คืนนี้ (9 ม.ค.) หลังจากเบเกอร์ ฮิวจ์ ซึ่งเป็นผู้ให้บริการขุดเจาะบ่อน้ำมันของสหรัฐรายงานว่า จำนวนแท่นขุดเจาะน้ำมันที่ใช้งานในสหรัฐปรับตัวเพิ่มขึ้นติดต่อกัน 10 สัปดาห์ ส่งผลให้นักลงทุนกังวลว่า การที่สหรัฐเพิ่มการขุดเจาะและผลิตน้ำมัน จะส่งผลกระทบต่อความพยายามของกลุ่มประเทศผู้ผลิตน้ำมันในการปรับลดกำลังการผลิต
สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ.ร่วงลง 2.03 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 51.96 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค.ร่วงลง 2.16 ดอลลาร์ หรือ 3.8% ปิดที่ 54.94 ดอลลาร์/บาร์เรล
สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้น เมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) โดยได้รับแรงหนุนจากการอ่อนค่าของสกุลเงินดอลลาร์สหรัฐ นอกจากนี้ การร่วงลงของตลาดหุ้นนิวยอร์กยังเป็นแรงกระตุ้นให้นักลงทุนเข้าซื้อทองคำซึ่งเป็นสินทรัพย์ที่ปลอดภัย
สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ.เพิ่มขึ้น 11.5 ดอลลาร์ หรือ 0.98% ปิดที่ระดับ 1,184.90 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 16.4 เซนต์ หรือ 0.99% ปิดที่ 16.683 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย.พุ่งขึ้น 12 ดอลลาร์ หรือ 1.24% ปิดที่ 982.60 ดอลลาร์/ออนซ์
สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค.เพิ่มขึ้น 12 ดอลลาร์ หรือ 1.2% ปิดที่ 982.60 ดอลลาร์/ออนซ์
ค่าเงินปอนด์ดิ่งลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 2 เดือน เมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (9 ม.ค.) หลังจากที่นางเทเรซา เมย์ นายกรัฐมนตรีอังกฤษ กล่าวอย่างชัดเจนว่า อังกฤษพร้อมถอนตัวออกจากตลาดร่วมยุโรป เพื่อให้รัฐบาลอังกฤษยังคงมีอำนาจในการควบคุมการเข้าเมืองของชาวต่างชาติ นอกจากนี้ นายกฯอังกฤษยังระบุด้วยว่า เธอเตรียมจะเปิดเผยยุทธศาสตร์ในการแยกตัวออกจากสหภาพยุโรป (Brexit) ภายในไม่กี่สัปดาห์ข้างหน้านี้
ปอนด์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2164 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2266 ดอลลาร์ ในขณะที่ยูโรแข็งค่าขึ้นแตะ 1.0570 ดอลลาร์ จากระดับ 1.0561 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้นที่ระดับ 0.7364 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7296 ดอลลาร์
ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 116.13 เยน จากระดับ 117.05 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 1.0154 ฟรังก์สวิส จากระดับ 1.0175 ฟรังก์สวิส