“ไอ้โม่ง” บุกซอยพหลฯ11อุกอาจ! บึ้มสนั่น-จ่อสร้าง”บ้านธนารักษ์ฯ”

ผู้สื่อข่าวรายงานว่า สืบเนื่องจากกรณีมีกลุ่มอนุรักษ์พญาไท ชาวซอยพหลโยธิน 5, 7, 9, 11 และบริเวณข้างเคียงที่จะมีการก่อสร้างโครงการบ้านประชารัฐในซอยพหลโยธิน 11 รวมตัวกันเพื่อขอให้พิจารณาทบทวนโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐซอยพหลโยธิน 11 เนื่องจากชุมชนได้รับความเดือดร้อน หลังจากที่พบว่าโครงการนี้ไม่มีการศึกษา EIA (Environmental Impact assessment) การวิเคราะห์ผลกระทบสิ่งแวดล้อมทั้งทางบวกและทางลบ

อีกทั้งยังมีประเด็นที่ผู้ชนะการประมูลและได้รับสิทธิการบริหาร คือ บริษัท ปักกิ่ง เออร์บัน-คอนสตรัคชั่นยาไถ่ (ไทย) คอนสตรัคชั่น กรุ๊ป ได้ขอโอนสิทธิการบริหารจัดการโครงการ ทั้งงานก่อสร้างและบริหารโครงการไปให้บริษัท จูโน่ พาร์ค ทำหน้าที่แทน ซึ่งส่งผลให้เกิดกระแสวิพากษ์วิจารณ์กันอย่างแพร่หลาย

 

ล่าสุด ผู้อยู่อาศัยในซอยพหลโยธิน 11 รายหนึ่ง เปิดเผยกับ “ข่าวหุ้นธุรกิจออนไลน์” ว่า เมื่อเวลาประมาณ 23.30 น. ของวานนี้ (9 เม.ย.60) ได้มีเจ้าหน้าที่และคนงานเข้ามาในซอยพหลโยธิน 11 บริเวณที่จะมีการก่อสร้างคอนโดมิเนียนโครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ เพื่อเข้ามาเคลียร์พื้นที่ในการก่อสร้าง

ต่อมา เวลา 24.30 น. ได้มีรถแม็คโครจำนวน 2 คัน ได้เข้ามาในพื้นที่ และเริ่มดำเนินการรื้อถอนแทงค์น้ำขนาดใหญ่ทันที และได้ทำการรื้อถอนตลอดทั้งคืน และเมื่อถึงเวลา 06.30 น. คนงานก่อสร้างได้ใช้ระเบิดเพื่อทำลายแทงค์น้ำ ส่งผลให้เกิดเสียง และมีฝุ่นฟุ้งกระจายสร้างความเดือดร้อนให้กับคนในชุมชน โดยการรื้อถอนดังกล่าวไม่ได้มีการแจ้งผู้อยู่อาศัยล่วงหน้า ขณะที่ภายในพื้นที่ก่อสร้างก็ไม่ได้มีการติดประกาศตามที่กฏหมายกำหนด อีกทั้งเป็นการกระทำฝ่าฝืนกฏหมายที่ห้ามก่อสร้างในยามวิกาล

ทั้งนี้ภายหลังได้มีการตรวจสอบบริษัทที่เข้ามารื้อแทงค์น้ำเป็นกลุ่มคนงานที่รับงานต่อมาจาก บริษัท ไทยรัฐการโยธา ซึ่งตามสัญญาการก่อสร้างที่ทางอธิบดีกรมธนารักษ์ได้ออกมาแถลงว่า บริษัท จูโน่ พาร์ค จำกัด เป็นผู้รับงานต่อมาจากบริษัท ปักกิ่ง เออร์บัน คอนสตรัคชั่น จึงเป็นข้อสงสัยว่า บริษัทที่เข้ามาทำการรื้อถอนในครั้งนี้จะเป็นบริษัทรับเหมาที่รับงานต่อจากบริษัท จูโน่ พาร์ค หรือไม่

โดยตามข้อเท็จจริงแล้ว เมื่อมีการประกาศใช้รัฐธรรมนูญ และจะมีการดำเนินการออกกฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญอีก 10 ฉบับ ดังนั้น โครงการบ้านธนารักษ์ประชารัฐ ที่ได้ดำเนินการมาตั้งแต่เดือนส.ค.59 และเกิดปัญหาตามมาอย่างมากมาย เป็นที่เคลือบแคลงสงสัยควรจะหยุดจนกว่ากฏหมายประกอบรัฐธรรมนูญจะดำเนินการเสร็จเป็นที่เรียบร้อยก่อน

นอกจากนั้นยังมีข้อกฏหมายเกี่ยวกับสิ่งแวดล้อมที่ทางผู้ชนะประมูล ยังไม่ได้ดำเนินการตามที่กฏหมายกำหนดเอาไว้ในรัฐธรรมนูญในมาตรา 58 ว่า การดำเนินการใดของรัฐ หรือที่รัฐจะอนุญาตให้ผู้ดำเนินการ อาจจะมีผลกระทบต่อทรัพยากรธรรมชาติ คุณภาพสิ่งแวดล้อม สุขอนามัย คุณภาพชีวิต หรือส่วนได้เสียสำคัญอื่นใดของประชาชนหรือชุมชนหรือสิ่งแวดล้อมอย่างรุนแรง โดยรัฐต้องให้มีการศึกษา และประเมินผลกระทบต่อคุณภาพสิ่งแวดล้อมและสุขภาพของประชาชน หรือชุมชน และจัดให้มีการรับฟังความคิดเห็นของผู้มีส่วนได้ส่วนเสีย และประชาชนและชุมชนที่เกี่ยวข้องก่อน เพื่อนำมาประกอบการพิจารณาดำเนินการหรืออนุญาตตามที่กฏหมายบัญญัติ

 

รูปนี้ถูกตัดแต่ง/ดัดแปลงเพื่อแสดงให้เห็นตำแหน่งที่ตั้งของแทงก์น้ำในอดีต