ACAP พลิกวิกฤต! ฟ้องบังคับหลักประกัน จ่อขายต่อบันทึกกำไรก้อนโต

ACAP ยันปล่อยกู้ "โอริออน" ถูกต้องตามกฏหมาย เตรียมยื่นฟ้องบังคับหลักประกัน จ่อขายโครงการต่อบันทึกกำไรก้อนโต


นางสาวสุกัญญา สุขเจริญไกรศรี กรรมการและประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เอเชีย แคปปิตอล กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ ACAP เปิดเผยผ่านรายการ “ข่าวหุ้นเจาะตลาด ออนเรดิโอ” ทาง FM 98.5 MHz สถานีข่าวจริง สปริงเรดิโอ ช่วงเวลา 9.30-11.00 น. ถึงกรณีการปล่อยเงินกู้ให้กับ บริษัท โอริออน ดีเวลลอปเม้นท์ จำกัด โดยเบื้องต้น น.ส.สุกัญญา ยืนยันว่า การปล่อยกู้ทั้งหมดดำเนินไปตามหลักเกณฑ์และขั้นตอนที่ถูกต้องตามกฏหมาย ขณะที่ทางลูกหนี้ได้กระทำผิดตามสัญญาเงินกู้ และสัญญาจำนำหุ้น บริษัทฯจึงพร้อมที่จะฟ้องเพื่อขอยึดหลักประกันเงินกู้ในทันที

อนึ่ง ACAP ได้มีการอนุมัติเงินกู้ให้แก่ผู้ขอกู้รายดังกล่าวไปก่อนหน้านี้ จำนวน 300 ล้านบาท โดยมีหลักประกันเป็นที่ดินจำนวน 1 ไร่ พร้อมสิ่งปลูกสร้างขั้นต้น ได้แก่ ฐานราก ซึ่งมีการประเมินมูลค่าหลักประกันประเภทนี้ที่ราคา 175 ล้านบาท อีกทั้งผู้ขอกู้ได้นำหุ้นของบริษัทตนเองมาจำนำไว้ด้วย อย่างไรก็ตาม ที่ดินดังกล่าวยังมีสัญญาจำนองติดอยู่กับบริษัทอื่นก่อนหน้าที่โอริออนจะมาขอกู้เงิน ดังนั้นบริษัทฯจึงได้หักเงินจำนวน 70 ล้านบาทออกมา ไปจ่ายให้เจ้าหนี้เดิมของโอริออน

ทั้งนี้ ด้วยเงื่อนไขของการปล่อยกู้ที่จะมีการโอนเงินให้ตามแผนการก่อสร้าง ซึ่งที่ผ่านมาทาง ACAP ได้ทำการโอนเงินให้กับโอริออนเพียงแค่งวดเดียว เป็นจำนวนเงิน 7 ล้านบาท ซึ่งเมื่อรวมกับยอดเงินที่นำไปชำระให้กับเจ้าหนี้เดิมจำนวน 70 ล้านบาทนั้น เท่ากับว่าบริษัทฯ ได้มีการจ่ายเงินเพื่อเป็นเงินกู้ให้กับลูกหนี้รายนี้ทั้งหมด 77 ล้านบาท จากวงเงิน 300 ล้านบาท ประกอบกับก่อนหน้านี้ บริษัทฯได้ทำการคิดดอกเบี้ยระยะเวลา 1 ปีรวมค่าธรรมเนียมไว้แล้ว จำนวน 45 ล้านบาท

ดังนั้น ในส่วนของการบันทึกบัญชี ถือว่า ACAP ได้รับรู้รายได้จากค่าดอกเบี้ยและค่าธรรมเนียม มูลค่า 45 ล้านบาท ซึ่งเป็นการได้รับทันทีเมื่อมีการลงนามสัญญาเงินกู้เมื่อช่วงเดือนพฤศจิกายน 2559 และได้บันทึกไว้ในงบการเงินงวดไตรมาส 4/59 ไปแล้ว พร้อมกันนี้ เมื่อบริษัทฯดำเนินการฟ้องร้องเพื่อบังคับเอาหลักประกัน และกระบวนการทางศาลเสร็จสิ้นลงแล้ว บริษัทฯจะมีทรัพย์สินเพิ่มเติมเข้ามา คือ ที่ดินและสิ่งปลูกสร้าง ซึ่งมีมูลค่าประเมินอยู่ที่ 175 ล้านบาท

ด้านน.ส.สุกัญญา ยอมรับว่า เมื่อได้หลักประกันดังกล่าวมาครอบครองเป็นทรัพย์สินของบริษัทฯแล้ว บริษัทฯอาจมีการพิจารณาขายทรัพย์สินดังกล่าวต่อให้กับผู้พัฒนาโครงการรายอื่นที่มีความสนใจ โดยที่ดินผืนดังกล่าวตั้งอยู่ในเมืองพัทยา ซึ่งก่อนหน้านี้ลูกหนี้รายดังกล่าวต้องการที่จะพัฒนาขึ้นเป็นโครงการคอนโดมิเนียมชื่อ “ดิ โอริออน คอนโด พัทยา” ขณะที่โครงการนี้ตั้งอยู่ในบริเวณที่เป็นที่นิยม บริษัทฯจึงมีโอกาสสูงที่จะสามารถขายทรัพย์สินในส่วนนี้ได้ในราคาที่มีกำไรดี

ปัจจุบันโครงการข้างต้น ซึ่งมีที่ดินพร้อมสิ่งปลูกสร้างบางส่วน ได้มีการก่อสร้างแล้วเสร็จกว่า 4 ชั้น โดยก่อนหน้านี้ทาง ACAP ได้ให้ผู้ประเมินราคาเข้ามาทำการประเมินราคาซึ่งตอนนั้นยังมีเพียงแค่ฐานราก ดังนั้นมูลค่าของทรัพย์สินนี้จึงน่าจะมีมูลค่าเพิ่มขึ้นอีกอย่างมีนัยสำคัญหากว่า มีการประเมินราคาใหม่เกิดขึ้นอีกครั้ง

Back to top button