MGT ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 20% ตามการเติบโตของธุรกิจเดิม-ขยายฐานลูกค้า

MGT ตั้งเป้ารายได้ปีนี้โต 20% ตามการเติบโตของธุรกิจเดิม, ภาพรวมอุตสาหกรรมขยายตัวต่อเนื่อง - ศึกษาลงทุนธุรกิจเกี่ยวเนื่องเคมีภัณฑ์-ปิโตรฯ หวังต่อยอดธุรกิจหลัก คาดเห็นความชัดเจนครึ่งปีหลัง – เล็งจับมือพันธมิตรจีน ขยายตลาดออนไลน์


นายวิทยา อินาลา ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เมกาเคม (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) หรือ MGT เปิดเผยว่า บริษัทอยู่ระหว่างศึกษาการลงทุนในธุรกิจที่เกี่ยวข้องกับเคมีภัณฑ์และปิโตรเคมี เพื่อต่อยอดธุรกิจหลัก คาดว่าจะเห็นความชัดเจนในช่วงปลายไตรมาส 3/60 หรือไตรมาส 4/60

พร้อมกันนั้น ยังศึกษาความร่วมมือกับพันธมิตรเพื่อขยายธุรกิจ โดยเตรียมรุกขยายตลาดเคมีภัณฑ์ที่ใช้สำหรับงานก่อสร้างอาคารสูง ร่วมกับพันธมิตรจากฝรั่งเศสในการเป็นตัวแทนจำหน่ายสินค้า ซึ่งจะช่วยเสริมรายได้ให้กับธุรกิจเดิม และศึกษาการขยายตลาดออนไลน์ร่วมกับพันธมิตรในจีน แต่ยังไม่มีความคืบหน้าในขณะนี้

ทั้งนี้ บริษัทยังคงเป้าหมายรายได้ปี 60 จะเติบโตได้ราว 20% จากปีก่อนที่มีรายได้จากการขาย 561.15 ล้านบาท เป็นไปตามการเติบโตของธุรกิจเดิม ประกอบกับภาพรวมของอุตสาหกรรมต่างๆ ที่ยังขยายตัวอย่างต่อเนื่อง ทำให้บริษัทสามารถหาลูกค้าสำหรับเคมีภัณฑ์กลุ่มใหม่ ๆ ได้เพิ่มขึ้น รวมถึงยังสามารถรักษาฐานลูกค้าเดิมไว้ได้

ด้านผลการดำเนินงานในไตรมาส 2/60 คาดจะเติบโตดีกว่าช่วงเดียวกันของปีก่อนตามการขยายฐานลูกค้าเพิ่มขึ้น และเน้นการทำการตลาดในธุรกิจใหม่ๆ เพื่อผลักดันยอดขายให้เพิ่มขึ้น เช่น เครื่องส่งผ่านความร้อนความเย็นที่ส่งขายให้กับโรงงานผลิตยา ซึ่งปัจจุบันได้มีการจำหน่ายแล้ว แต่ยอดขายยังอยู่ในระดับต่ำ

“เรายังคงเป้าหมายเติบโตราว 20% ตามการเติบโตจากธุรกิจเดิมเป็นหลัก จากการขยายฐานลูกค้าใหม่เข้ามา และการเพิ่มสาขาในประเทศ จำนวน 2 สาขา ซึ่งจะสามารถต่อยอดการขายไปยังต่างประเทศได้”นายวิทยา กล่าว

ทั้งนี้ บริษัทวางงบลงทุนรวมปีนี้ราว 16 ล้านบาท เพื่อเป้าหมายการเดินหน้าขยายฐานลูกค้าทั้งในประเทศและต่างประเทศ โดยในประเทศจะจัดตั้งสำนักงานสาขาใน จ.นครพนม และ อ.หาดใหญ่ จ.สงขลา ตามแผนงาน ใช้เงินลงทุนสาขาละ 3 ล้านบาท มีกำหนดเปิดให้บริการในไตรมาส 3/60 ส่วนต่างประเทศ จะจัดตั้งสำนักงานสาขาในเมียนมา และกัมพูชา คาดว่าจะใช้เงินลงทุนสาขาละ 5 ล้านบาท ซึ่งจะเปิดให้บริการได้ภายในปี 61 เพื่อเป็นการขยายตลาดไปยังประเทศเพื่อนบ้านที่มีโอกาสในการเติบโตสูงในอนาคต

รวมถึงยังมีการลงทุนจัดตั้งห้องทดสอบและวิเคราะห์องค์ประกอบทางเคมีที่สำนักงานใหญ่ในนิคมอุตสาหกรรมลาดกระบัง คาดจะเริ่มเปิดให้บริการช่วงต้นเดือน มิ.ย.นี้ เพื่อทดสอบเคมีภัณฑ์ก่อนทำการจำหน่ายให้กับลูกค้าตามความต้องการของลูกค้า

Back to top button