PACEแจ้งกำไรมโหฬาร 5 พันลบ. แต่ถูกแขวนSP เหตุผู้สอบฯตั้งข้อสงสัยบุ๊ครายได้จุดชมวิวโอเวอร์

PACE Q2/60 พลิกมีกำไร 5.31 พันลบ. จากปีก่อนขาดทุน 640.54 ลบ. แต่โดนตลาดแขวนป้าย SP เหตุผู้สอบบัญชีไม่รับรองงบฯ ตั้งข้อสงสัยบุ๊ครายได้จุดชมวิวโอเวอร์


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE รายงานผลการดำเนินงานไตรมาส 2/60 (รวมบริษัทย่อย) สิ้นสุดวันที่ 30 มิ.ย.60 ดังนี้

ทั้งนี้ผลการดำเนินงานในไตรมาสดังกล่าวพลิกมีกำไรเป็นผลมาจากการที่บริษัทเข้าร่วมทุนกับบริษัท อพอลโล โกลบอล แมเนจเมนท์ และบริษัทในเครือ “Apollo”

อย่างไรก็ตาม ตลาดหลักทรัพย์แห่งประเทศไทย (ตลท.) ได้ทำการขึ้นเครื่องหมาย  SP และ NP บริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ PACE ในเช้าวันนี้ (16 ส.ค.60) กรณีผู้สอบบัญชีไม่ให้ข้อสรุปต่องบการเงินของบริษัทสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 ซึ่งสำนักงาน ก.ล.ต.อาจสั่งการให้บริษัทแก้ไขงบการเงินได้โดยจะคงเครื่องหมาย NP จนกว่าบริษัทดังกล่าวจะนำส่งงบการเงินฉบับแก้ไขหรือจนกว่าจะได้ข้อสรุปว่าไม่ต้องแก้ไขงบการเงิน

โดย นางสาววิมลศรี จงอุดมสมบัติ ผู้สอบบัญชีรับอนุญาต เลขทะเบียน 3899 บริษัท เบเคอร์ ทิลลี่ ออดิท แอนด์ แอ็ดไวเซอร์รี่ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด ได้ระบุในรายงานการสอบทานข้อมูลทางการเงินระหว่างกาล สำหรับงวดสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 ว่า กลุ่มบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่นได้ว่าจ้างบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระแห่งหนึ่ง เพื่อทำการประเมินมูลค่ายุติธรรมของเงินลงทุนใน บริษัท เพซ โปรเจ็ค วัน จำกัด และบริษัท เพซ โปรเจ็ค ทรี จำกัด

ซึ่งใช้วิธีประมาณการรายได้ (Income Approach) และคำนวณคิดลดกระแสเงินสดมาเป็นมูลค่าปัจจุบัน ตามรายงานของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระดังกล่าวลงวันที่ 12 พฤษภาคม 2560 เงินลงทุนดังกล่าวมีมูลค่ายุติธรรมจำนวนเงิน 8,231 ล้านบาท และกลุ่มบริษัท เพซ ดีเวลลอปเมนท์ คอร์ปอเรชั่น ได้บันทึกเงินลงทุนในงบแสดงฐานะการเงินรวม ณ วันที่ 30 มิถุนายน 2560 จำนวนเงิน 8,231 ล้านบาท และรับรู้ผลกระทบจากการสูญเสียการควบคุมในบริษัทย่อยในงบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมสำหรับงวดสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560 จำนวนเงิน 8,856.6 ล้านบาท

อย่างไรก็ตาม จากข้อจำกัดโดยสถานการณ์ ส่งผลให้ไม่สามารถสรุปผลการสอบทานรายงานของบริษัทที่ปรึกษาทางการเงินอิสระดังกล่าวเกี่ยวกับการประมาณการรายได้ของจุดชมวิว จากข้อเท็จจริงที่การก่อสร้างยังไม่แล้วเสร็จจึงไม่มีการประกอบพาณิชย์กิจจริงเพื่อเปรียบเทียบและเป็นธุรกิจใหม่ในตลาดของไทย

“เนื่องจากความไม่แน่นอนอย่างเป็นสาระสำคัญของการประมาณการรายได้ของจุดชมวิว อาจมีผลกระทบอย่างมีสาระสำคัญต่องบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวม ดังนั้น ข้าพเจ้าจึงไม่สามารถให้ข้อสรุปผลการสอบทานของข้าพเจ้าต่องบกำไรขาดทุนเบ็ดเสร็จรวมสำหรับงวดสามเดือนและหกเดือนสิ้นสุดวันที่ 30 มิถุนายน 2560” นางสาววิมลศรี ผู้สอบบัญชี บริษัท เบเคอร์ ทิลลี่ ออดิท แอนด์ แอ็ดไวเซอร์รี่ เซอร์วิสเซส (ประเทศไทย) จำกัด กล่าว

Back to top button