สรุปภาวะตลาดต่างประเทศวานนี้

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 12 ม.ค. 61


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเมื่อคืนนี้ (11 ม.ค.) โดยดัชนีหลักทั้ง 3 ดัชนีปิดทำนิวไฮพร้อมกันอีกครั้ง หลังจากราคาน้ำมันดิบพุ่งขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปี ซึ่งช่วยหนุนหุ้นกลุ่มพลังงานดีดตัวขึ้นอย่างแข็งแกร่ง นอกจากนี้ ตลาดยังได้ปัจจัยหนุนจากการที่นักลงทุนมีมุมมองบวกต่อแนวโน้มผลประกอบการของบริษัทจดทะเบียนและมาตรการปรับลดภาษีของรัฐบาลสหรัฐ

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนส์ปิดที่ 25,574.73 จุด พุ่งขึ้น 205.60 จุด หรือ +0.81% ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,767.56 จุด เพิ่มขึ้น 19.33 จุด หรือ +0.70% และดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,211.78 จุด เพิ่มขึ้น 58.21 จุด หรือ +0.81%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวลงเมื่อคืนนี้ (11 ม.ค.) หลังจากหุ้นกลุ่มค้าปลีกร่วงลงอย่างหนัก อันเนื่องมาจากผลประกอบการที่น่าผิดหวังของบริษัทเทสโก และมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์ นอกจากนี้ ตลาดหุ้นยุโรปยังได้รับแรงกดดันจากการแข็งค่าของสกุลเงินยูโร หลังจากธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่า ECB กำลังเตรียมถอนตัวจากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน

ดัชนี Stoxx Europe 600 ลดลง 0.3% ปิดที่ 397.25 จุด ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่วันที่ 4 ม.ค.ปีนี้

ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 13,202.90 จุด ลดลง 78.44 จุด หรือ -0.59% ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่  5,488.55 จุด ลดลง 16.13 จุด หรือ -0.29% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 7,762.94 จุด เพิ่มขึ้น 14.43 จุด หรือ +0.19%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดทำนิวไฮเมื่อคืนนี้ (11 ม.ค.) โดยได้แรงหนุนจากการพุ่งขึ้นของหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ แม้แรงบวกถูกสกัดในระหว่างวันจากหุ้นกลุ่มค้าปลีกที่ปรับตัวลงภายหลังจากเทสโกและมาร์ค แอนด์ สเปนเซอร์เปิดเผยยอดขายที่น่าผิดหวัง

ดัชนี FTSE 100 เพิ่มขึ้น 14.43 จุด หรือ +0.19% ปิดที่ 7,762.94 จุด

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดดีดตัวขึ้นแตะระดับสูงสุดในรอบ 3 ปีเมื่อคืนนี้ (11 ม.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากรายงานที่ว่า การผลิตน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลดลงในสัปดาห์ที่แล้ว ขณะที่สต็อกน้ำมันดิบของสหรัฐปรับตัวลงติดต่อกันเป็นเวลานานถึง 8 สัปดาห์

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 23 เซนต์ หรือ 0.4% ปิดที่ 63.80 ดอลลาร์/บาร์เรล

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนมี.ค. ขยับขึ้น 6 เซนต์ หรือ 0.1% ปิดที่ 69.26 ดอลลาร์/บาร์เรล

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดบวกเมื่อคืนนี้ (11 ม.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากสกุลเงินดอลลาร์ที่อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ หลังจากกระทรวงแรงงานสหรัฐเปิดเผยว่า ดัชนีราคาผู้ผลิต (PPI) เดือนธ.ค.ของสหรัฐปรับตัวลงเป็นครั้งแรกในรอบกว่า 1 ปี

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนก.พ. เพิ่มขึ้น 3.2 ดอลลาร์ หรือ 0.17% ปิดที่ระดับ 1,322.50 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 6.9 เซนต์ หรือ 0.41% ปิดที่ 16.966 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. เพิ่มขึ้น 12 ดอลลาร์ หรือ 1.23% ปิดที่ 990.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมี.ค. ลดลง 1.15 ดอลลาร์ หรือ 0.1% ปิดที่ 1,076.25 ดอลลาร์/ออนซ์

 

สกุลเงินยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ในการซื้อขายที่ตลาดนิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (11 ม.ค.) หลังธนาคารกลางยุโรป (ECB) เปิดเผยรายงานการประชุมประจำเดือนธ.ค. ซึ่งบ่งชี้ว่า ECB กำลังเตรียมถอนตัวจากการใช้นโยบายผ่อนคลายทางการเงิน ขณะที่ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเงินสกุลหลักๆ จากแรงกดดันของข้อมูลเศรษฐกิจที่อ่อนแอของสหรัฐ

ยูโรแข็งค่าขึ้นเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.2038 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1963 ดอลลาร์ ในขณะที่ปอนด์แข็งค่าขึ้นแตะ 1.3534 ดอลลาร์ จากระดับ 1.3513 ดอลลาร์ และดอลลาร์ออสเตรเลียแข็งค่าขึ้น ที่ระดับ  0.7893 ดอลลาร์ จากระดับ 0.7839 ดอลลาร์

ดอลลาร์อ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับเยน ที่ระดับ 111.11 เยน จากระดับ 111.32 เยน และอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9761 ฟรังก์สวิส จากระดับ 0.9778 ฟรังก์สวิส

Back to top button