PRM วอลุ่มหนา-บวกแรง 5.36% โบรกฯชี้กำไรปี 61-64 โตเฉลี่ย 29% แนะซื้อเป้า 16.10 บ.

PRM วอลุ่มหนา-บวกแรง 5.36% โบรกฯชี้กำไรปี 61-64 โตเฉลี่ย 29% แนะซื้อเป้า 16.10 บ. โดย ณ เวลา 12.15 น. อยู่ที่ระดับ 11.80 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 5.36%  ด้วยมูลค่าซื้อขาย 576.78 ล้านบาท


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า บริษัท พริมา มารีน จำกัด (มหาชน) หรือ หรือ PRM ณ เวลา 12.15 น. อยู่ที่ระดับ 11.80 บาท บวก 0.60 บาท หรือ 5.36%  ด้วยมูลค่าซื้อขาย 576.78 ล้านบาท

บล.แบงก์ กิมเอ็ง ระบุในบทวิเคราะห์ว่า  PRM จาก (1) กองเรือ Tanker และ FSU ที่ระดมซื้อเพิ่มระหว่างปี 2559-60 จำนวน 6 ลำ รวมเป็น 25 ลำจะทำงานเต็มที่ ซึ่งในเชิงปริมาณบรรทุกถือว่าเพิ่มถึง 54% จากปี 2558 vs จำนวนเรือเพิ่ม 32% อันเนื่องไปจากการใช้เรือขนาดใหญ่ขึ้น

(2) AOT ขยายสนามบินภูเก็ตเสร็จเมื่อ พ.ย. 2560 รองรับผู้โดยสารได้อีก 92% กระตุ้นความต้องการใช้น้ำมันในภาคใต้ซึ่งเป็นพื้นที่ทำงานหลักของ PRM (3) ราคาน้ำมันดิบกลับทิศเป็นขาขึ้น ส่งผลดีต่อความต้องการใช้เรือสนับสนุนแท่นขุดน้ำมัน FSO 2 ลำ และ AWB (4) ปัญหาค่าระวางเรือ Aframax (tanker) ในตลาด spot ที่ตกต่ำในปี 2560 ได้ถูกแก้ให้ไปบริการแบบเช่าเหมาลำ (Time Charter) แล้วตั้งแต่ พ.ย. 2560

กำไรปกติปี 2560 ที่คาดจะหดตัว -33%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 655 ลบ. แต่จะพลิกเป็นขยายตัว +36%เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนเป็น 890 ลบ. ในปี 2561 และเมื่อรวมกับการขยายกองเรืออีกสุทธิ 5 ลำในปีนี้ (หักปลดระวางเรือเก่า 3 ลำออก) คาดกำไรจะขยายตัวต่ออีก +24% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อนในปี 2562 ซึ่งจากแผนขยายเรือ 3 ปีประเมินว่า กำไรสุทธิจะขยายตัว 29% ต่อปี CAGR (2561-64) บนสมมติฐานอัตรากำไรขั้นต้นเฉลี่ย 30.9% vs ช่วงปกติ 37.3% (ปี 2558-59) จากการให้สมมติฐานอัตราใช้งานเรือTanker และ FSU ที่ 85% และ 92% ตามลำดับ vs 89% และ 99% ของช่วงปกติ

เพราะสัญญาบริการส่วนใหญ่เป็นแบบโครงการยาว 5-8 ปี เกือบ 60% มีระบบ cost plus มีการการันตีปริมาณขนส่ง ทำให้กำไรของ PRM มั่นคง นอกจากนี้ PRM ยังมีส่วนแบ่งตลาด Tanker สูงสุดในประเทศ มีคู่ค้าเป็นบริษัทพลังงานยักษ์ใหญ่อย่าง PTT และ Chevron ส่วนในเชิงตัวเลข PRM ให้ ROE เฉลี่ย 3 ปีข้างหน้า 12.6% สูงกว่ากลุ่มในเอเชียแปซิฟิก 300bps และให้ภาพกำไรเติบโตชัดเจนกว่ามาก เราประเมินมูลค่าด้วยวิธีคิดลดกระแสเงินสด DCF (WACC 7.0%, g 1.5%) ได้ราคาเหมาะสมปี 2561 ที่ 16.10 บาท/ หุ้น ใกล้เคียงกับการอิง EV/ EBITDA 14.4x ตามค่าเฉลี่ยกลุ่มเรือที่ซื้อขายใน SET

เริ่มต้นคำแนะนำ “ซื้อ” ราคาเหมาะสม 16.10 บาท/ หุ้น :เลือกใช้วิธี DCF ในการหลบประเด็นของค่าเสื่อมราคาที่บริษัทกำลังหารือกับผู้สอบบัญชี เพราะวิธีนี้ได้บวกกลับค่าเสื่อมราคาคืนเข้าไปในกระแสเงินสดทั้งหมด

อีกทั้งธุรกิจของ PRM เป็นธุรกิจที่อิงกับสัญญา และอายุเรือสามารถทำมาหากินได้ยาวนานกว่า 20+ ปี จึงมองว่าเหมาะสม อีกทั้งใช้ terminal growth อย่างอนุรักษ์นิยมเพียง 1.5% เปรียบกับปริมาณการบริโภคน้ำมันในภาคใต้ระดับ 4% และ เอเชียแปซิฟิกที่ 2.8% ต่อปี ขณะที่วิธี  P/BV มองว่าไม่เหมาะนักเนื่องจากกลุ่มเรือทั่วโลกเพิ่งประสบปัญหาทางการเงินทำให้มีค่าที่กว้างเกินไป

Back to top button