Daily View – P.M. – บล.กสิกรไทย

Tactical Move

เดินเกมกลยุทธ์บ่าย

SET Index ปรับลดลง -16.44 จุด (-1.03%) ปิดภาคเช้าที่ 1,585.04 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 21,606.83 ล้านบาท

Most Positive Impact: SCB (+0.66 จุด), GPSC (+0.18 จุด), TOA (+0.15 จุด)

Most Negative Impact: PTTEP (-2.14 จุด), PTT (-2.1 จุด), PTTGC (-1.21 จุด)

แนวโน้มตลาดบ่าย

ตลาดหุ้นเอเชียดิ่งลงกันถ้วนหน้า ญี่ปุ่น -1.51% เกาหลีใต้ -0.67% ไต้หวัน -0.77% ฮั่งเสง -1% ฟิลิปปินส์ -1.5% อินโดนีเซีย -0.75% ส่วน SET Index ปรับลงด้วยกลุ่ม Big Cap ทั้ง พลังงาน -1.6% (มีผลต่อ SET -6.37 จุด) ปิโตรเคมี -3.2% (มีผลต่อ SET -2.3 จุด) สื่อสาร -1.4% (มีผลต่อ SET -1.8 จุด) ส่วนธนาคารลงเล็กน้อยเพียง -0.3%

กลุ่มพลังงานและปิโตรเคมีวันนี้ลงกระหน่ำ โดยเฉพาะ PTT PTTEP PTTGC ตามการลงต่ำกว่า 50 เหรียญต่อบาร์เรลของน้ำมัน WTI ทั้งนี้มองราคาน้ำมันยังไม่น่าจะลงรุนแรงจนต่ำกว่า 47 เหรียญต่อบาร์เรล โดยมีความเป็นไปได้ที่จะเกิดการดีดตัวใน 1-2 วันข้างหน้า จากตัวเลขปริมาณสต็อกน้ำมันดิบสหรัฐซึ่งจะมีการรายงานในวันพรุ่งนี้ มีแนวโน้มปรับลดลงหลังโรงกลั่นในสหรัฐยังคงอัตราการกลั่นในระดับสูงเพื่อรองรับความต้องการในช่วงฤดูหนาว

กลุ่มธนาคาร วันนี้ปรับลดลงไม่มากแต่ต้องระวังการประชุม กนง. ในวันพรุ่งนี้ แม้จะมีมติขึ้นดอกเบี้ยอย่างที่ตลาดคาดหวัง แต่มองว่า กนง. จะส่งสัญญาณทิ้งช่วงการขึ้นดอกเบี้ยครั้งต่อไป จะเป็นเหตุให้กลุ่มธนาคารถูก Sell on fact และปรับลดลงได้

คาดว่าในช่วงปลายสัปดาห์นี้จนถึงสัปดาห์หน้า SET Index จะมีการทำ Technical Rebound ดัชนีน่าจะกลับมาเกิน 1,600 จุด จากแรงหนุน LTF ปลายปีและ Window Dressing แต่จะเป็นโอกาสให้ทำการปรับพอร์ตลดน้ำหนักการลงทุน เพื่อหลีกเลี่ยงตวามเสี่ยงในช่วงต้นปี 2562 ซึ่งอาจดึงให้ SET Index ลงมาต่ำถึง 1,550 จุด โดยต้องระวังกลุ่มหุ้นดังต่อไปนี้ กลุ่ม High PER แต่ Low Upside Low EPS Growth (2562) BEAUTY CKP TTCL GULF CBG KAMART

ประเด็นน่าติดตามในวันพุธทั้ง กนง.(ไทย) และ BOJ(ญี่ปุ่น) จะมีการประชุมเพื่อกำหนดนโยบายทางการเงิน ส่วนวันพฤหัสมีการประชุมนโยบายการเงินของ FED (สหรัฐ) สุดท้ายวันศุกร์ฝั่งสหรัฐจะมีการรายงานตัวเลข PCE ประจำเดือน พ.ย. โดยน่าจะอยุ่ที่ 1.9% รวมถึงตัวเลขดุลการค้าของไทยโดยกระทรวงพาณิชย์

หุ้นแนะนำ CPALL BH HANA