ครึ่งบ่ายไม้สั้น – บล.คันทรี่กรุ๊ป

สรุปตลาดภาคเช้า

          ตลาดภาคเช้าปิดอ่อนตัวลง ขณะที่ตลาดรอบบ้านมีทั้งบวกสลับลบ ตลาดไทยยังถูกกดดันจากราคาน้ำมันที่ปรับตัวลดลง ประกอบกับภาพรวมเศรษฐกิจไทยที่อ่อนแอ ปิดตลาดภาคเช้าดัชนีเปลี่ยนแปลง -9.22 จุด มาที่ระดับ 1,432.82 จุด ด้วยมูลค่าการซื้อขายที่ระดับ 1.7 หมื่นล้านบาท

 

แนวโน้ม ภาคบ่าย

          คาดแกว่งตัวในกรอบแคบ ราคาน้ำมันดิบเริ่มทรงตัวในช่วงเช้าของวันทำให้เรามองว่าแรงขายในหุ้นกลุ่มพลังงานจะเริ่มชะลอลง เราคาดว่าในระยะกลางตลาดจะยังเคลื่อนไหวในรูปแบบ Side Way เพื่อรอปัจจัยใหม่ สำหรับประเด็นเด่นในสัปดาห์นี้ ให้จับตาผลการประชุมกนง. ในวันที่ 5 ส.ค. ว่าจะลดอัตราดอกเบี้ยนโยบายหรือไม่

 

วิเคราะห์ทางเทคนิค

CWT   ราคาปิด 3.22 บาท

แนวรับ 3.16 บาท           แนวต้าน 3.48, 4.00 บาท

แนว cut loss หากใกล้จะหลุด 3.10 บาท

          กราฟ CWT ราย 120 นาที รวมทั้งกราฟ day เกิดการดีดตัวขึ้นของราคาหุ้นหลังจากที่ลงมาลึกจน RSI ต่ำกว่า 20% เข้าเขต Super Oversold จึงเกิดการ rebound ขึ้นตามธรรมชาติ ซึ่งเราประเมินแนวต้านของการดีดตัวนี้ที่ 3.48 บาท กราฟและเครื่องมือยืนยันการฟื้นตัวจึงเหมาะแก่การเก็งกำไร

 

เด็กแนว

          HFT ตอนนี้ราคายางตกต่ำถึงขีดสุด และแนวโน้มจะตกต่อไปไร้จุดหมาย  ผลเสียเกิดกับบริษัทที่ค้าขายเกี่ยวกับยางอย่างชัดเจน  แต่ผลดีกลับไปตกแก่ผู้ที่ต้องใช้ยางเป็นวัตถุดิบในการนำไปผลิตเป็นสินค้าสำเร็จรูปเพราะได้ต้นทุนยางที่ถูกมากๆ รอบนี้จึงมาสนใจ HFT อีกครั้ง เพราะเป็นผู้ผลิตยางรถมอไซด์  ยางจักรยาน และรถทั่วไป ถือว่าได้ส่วนต่าง margin เต็มๆ เพราะได้ซื้อยางราคาถูก แต่นำมาขายราคาปกติ หรือราคาที่สูงขึ้นลดต้นทุนบานตะไท ด้านผลประกอบการใน Q1 ที่ออกมาแม้จะไม่ได้ขยายตัวมาก แต่ก็ทรงตัวที่กำไร 85 ล้านบาท หากตัวเลขนี้คงที่ไปตลอดทั้งปี ซี่งจริงๆ ควรจะดีกว่านี้   จะทำให้มีกำไรต่อหุ้นสูงถึง 0.52 บาทเป็นอย่างน้อยและจะมีค่า PE เพียง 7 เท่า คิดเป็นอัตราปันผลระดับ 6% ดูดีไปซะทุกอย่าง  ที่สำคัญงบการเงินแข็งแกร่งมาก เพราะมีกำไรสะสม 1.2 พันล้านบาท เงินสดในมือล้น และจะมี Book value ในอนาคตที่ 3.6 บาทหากกำไรแรงกว่านี้ book ก็ยิ่งสูงกว่านี้   แถมไม่มีหนี้อีกตะหากเรียกว่าเศรษฐกิจเนื้อทองก็ได้เลยอ่ะ