สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 30 มี.ค. 2563

สรุปภาวะตลาดต่างประเทศ ประจำวันที่ 30 มี.ค. 2563


ดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นนิวยอร์กปิดพุ่งขึ้นเกือบ 700 จุดเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนเข้าซื้อกลุ่มธุรกิจสุขภาพอย่างคึกคัก นำโดยหุ้นจอห์นสัน แอนด์ จอห์นสัน (J&J) ที่พุ่งขึ้นถึง 8% หลังจากบริษัทประกาศว่าจะทำการทดลองวัคซีนต้านเชื้อโควิด-19 ในเดือนก.ย. นอกจากนี้ ตลาดยังได้แรงหนุนจากการที่รัฐบาลสหรัฐออกมาตรการสกัดการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 และประธานาธิบดีโดนัลด์ ทรัมป์ ลงนามบังคับใช้มาตรการเยียวยาผลกระทบจากไวรัสโควิด-19 ซึ่งมีวงเงินสูงถึง 2.2 ล้านล้านดอลลาร์

ดัชนีเฉลี่ยอุตสาหกรรมดาวโจนสปิดที่ 22,327.48 จุด พุ่งขึ้น 690.70 จุด หรือ +3.19% ขณะที่ดัชนี S&P500 ปิดที่ 2,626.65 จุด เพิ่มขึ้น 85.18 จุด หรือ+3.35% ส่วนดัชนี Nasdaq ปิดที่ 7,774.15 จุด เพิ่มขึ้น 271.77 จุด หรือ+3.62%

 

ตลาดหุ้นยุโรปปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) เนื่องจากนักลงทุนพากันเข้าซื้อหุ้นกลุ่มปลอดภัย ท่ามกลางความวิตกเกี่ยวกับการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19

ดัชนี Stoxx Europe 600 บวก 1.28% ปิดที่ 314.88 จุด

ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,378.51 จุด เพิ่มขึ้น 27.03 จุด หรือ +0.62%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 9,815.97 จุด เพิ่มขึ้น 183.45 จุด หรือ +1.90% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,563.74 จุด เพิ่มขึ้น 53.41 จุด หรือ +0.97%

 

ตลาดหุ้นลอนดอนปิดปรับตัวขึ้นเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) เนื่องจากเงินปอนด์ที่อ่อนค่าลงช่วยหนุนหุ้นกลุ่มส่งออกปรับตัวขึ้น และการพุ่งขึ้นของหุ้นแอสตราเซเนกาช่วยหนุนตลาดด้วย

ดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 5,563.74 จุด เพิ่มขึ้น 53.41 จุด หรือ +0.97%

 

สัญญาน้ำมันดิบเวสต์เท็กซัส (WTI) ตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงแตะระดับต่ำสุดในรอบ 18 ปีเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) ท่ามกลางความวิตกกังวลที่ว่า การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 จะส่งผลกระทบต่อกิจกรรมทางเศรษฐกิจทั่วโลกและทำให้ความต้องการใช้น้ำมันชะลอตัวลงด้วย นอกจากนี้ ราคาน้ำมันยังได้รับแรงกดดันจากความกังวลที่ว่า การทำสงครามราคาระหว่างซาอุดีอาระเบียและรัสเซียจะส่งผลให้ปริมาณน้ำมันดิบในตลาดโลกพุ่งขึ้น

สัญญาน้ำมันดิบ WTI ส่งมอบเดือนพ.ค. ร่วงลง 1.42 ดอลลาร์ หรือ 6.6% ปิดที่ 20.09 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนก.พ. 2545

สัญญาน้ำมันดิบเบรนท์ส่งมอบเดือนพ.ค. ร่วงลง 2.17 ดอลลาร์ หรือ 8.7% ปิดที่ 22.76 ดอลลาร์/บาร์เรล ซึ่งเป็นระดับปิดต่ำสุดนับตั้งแต่เดือนพ.ย. 2545

 

สัญญาทองคำตลาดนิวยอร์กปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) เนื่องจากการแข็งค่าของสกุลเงินดอลลาร์ได้ลดความน่าดึงดูดของราคาทองคำ นอกจากนี้ นักลงทุนยังลดการถือครองทองคำในฐานะสินทรัพย์ที่ปลอดภัย หลังจากดัชนีดาวโจนส์ตลาดหุ้นสหรัฐทะยานขึ้นเกือบ 700 จุดเมื่อคืนนี้

สัญญาทองคำตลาด COMEX (Commodity Exchange) ส่งมอบเดือนเม.ย. ร่วงลง 10.9 ดอลลาร์ หรือ 0.66% ปิดที่ 1643.2 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาโลหะเงินส่งมอบเดือนพ.ค. ลดลง 40.2 เซนต์ หรือ 2.77% ปิดที่ 14.132 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพลาตินัมส่งมอบเดือนเม.ย. ลดลง 17.8 ดอลลาร์ หรือ 2.4% ปิดที่ 723.8 ดอลลาร์/ออนซ์

สัญญาพัลลาเดียมส่งมอบเดือนมิ.ย. เพิ่มขึ้น 80 เซนต์ หรือ 0.04% ปิดที่ 2,197.60 ดอลลาร์/ออนซ์

 

ดอลลาร์สหรัฐแข็งค่าเมื่อเทียบกับสกุลเงินหลักๆ ในการซื้อขายที่ตลาดปริวรรตเงินตรานิวยอร์กเมื่อคืนนี้ (30 มี.ค.) โดยได้ปัจจัยหนุนจากการที่รัฐบาลสหรัฐออกมาตรการควบคุมการแพร่ระบาดและลดผลกระทบทางเศรษฐกิจที่เกิดจากการลุกลามของไวรัสโควิด-19

ดอลลาร์แข็งค่าเมื่อเทียบกับเงินเยน ที่ระดับ 108.00 เยน จากระดับ 107.80 เยน และแข็งค่าเมื่อเทียบกับฟรังก์สวิส ที่ระดับ 0.9597 ฟรังก์ จากระดับ 0.9534 ฟรังก์ นอกจากนี้ ดอลลาร์สหรัฐยังแข็งค่าเมื่อเทียบกับดอลลาร์แคนาดา ที่ระดับ 1.4160 ดอลลาร์แคนาดา จากระดับ 1.3943 ดอลลาร์แคนาดา

ยูโรอ่อนค่าลงเมื่อเทียบกับดอลลาร์สหรัฐ ที่ระดับ 1.1027 ดอลลาร์ จากระดับ 1.1114 ดอลลาร์ ขณะที่เงินปอนด์อ่อนค่าลงแตะที่ระดับ 1.2386 ดอลลาร์ จากระดับ 1.2472 ดอลลาร์ ส่วนดอลลาร์ออสเตรเลียอ่อนค่าลงสู่ระดับ 0.6153 ดอลลาร์สหรัฐ จากระดับ 0.6189 ดอลลาร์สหรัฐ

 

Back to top button