ไทยป่วย “โควิด” เพิ่ม 7 ราย มาจากต่างประเทศ ดันยอดติดเชื้อสะสม 3,497 คน

"ศบค." เผยไทยพบผู้ป่วย “โควิด-19” เพิ่ม 7 ราย มาจากต่างประเทศ ดันยอดติดเชื้อสะสม 3,497 คน


ศูนย์บริหารสถานการณ์การแพร่ระบาดของโรคติดเชื้อไวรัสโคโรนา 2019 (โควิด-19) หรือ ศบค. รายงานสถานการณ์แพร่ระบาดของโรคโควิด-19 ในประเทศ ประจำวันที่ 18 ก.ย.63 เมื่อเวลา 11.00 น. ระบุ พบผู้ป่วยยืนยันติดเชื้อรายใหม่ 7 ราย เดินทางมาจากต่างประเทศ และเข้าพักในสถานที่เฝ้าระวังที่รัฐจัดให้ (State Quarantine)

ทั้งนี้ ทำให้จำนวนผู้ป่วยยืนยันสะสมล่าสุดอยู่ที่ 3,497 ราย เป็นผู้ป่วยที่ติดเชื้อภายในประเทศ 2,445 คน และผู้ป่วยที่ตรวจพบในสถานที่กักกันที่รัฐจัดให้ 559 ราย มีผู้ป่วยที่รักษาหายเพิ่ม 3 ราย รวมรักษาหายแล้วอยู่ที่ 3,328 ราย ยังรักษาตัวอยู่ในโรงพยาบาล 111 ราย ไม่มีผู้เสียชีวิตเพิ่มเติม ยอดผู้เสียชีวิตสะสมยังคงอยู่ที่ 58 ราย

สำหรับรายละเอียดผู้ติดเชื้อโควิด-19 เป็นผู้ที่เดินทางมาจากบังกลาเทศ 1 ราย ซาอุดีอาระเบีย 4 ราย กาตาร์ 1 ราย และปากีสถาน 1 ราย

โดยผู้ติดเชื้อที่เดินทางมาจากบังคลาเทศ 1 ราย เป็นชายสัญชาติบังคลาเทศ อายุ 42 ปี อาชีพพนักงานบริษัท ถึงไทยเมื่อวันที่ 2 ก.ย.63 เข้าพัก Alternative State Quarantine (ASQ) ในกรุงเทพฯ และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 ในวันที่ 13 ก.ย.63 ผลตรวจพบเชื้อ โดยไม่มีอาการ

ผู้ที่เดินทางมาจากกาตาร์ 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 41 ปี อาชีพรับจ้าง ถึงไทยเมื่อวันที่ 13 ก.ย.63 เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยก่อนหน้านี้ 1 ราย เข้าพัก State Quarantine (SQ) ใน จ.ชลบุรี และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 16 ก.ย.63 ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ

ผู้ที่เดินทางมาจากปากีสถาน 1 ราย เป็นเด็กชาย อายุ 10 ปี สัญชาติปากีสถาน ถึงไทยเมื่อวันที่ 13 ก.ย.63 และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 1 เมื่อวันที่ 16 ก.ย.63 ผลตรวจพบเชื้อ ไม่มีอาการ

และมาจากซาอุดิอาระเบีย 3 ราย เป็นนักเรียนหญิงไทย 2 ราย อายุ 9 และ 14 ปี และชายไทยอายุ 61 ปี อาชีพพนักงานบริษัท เดินทางมาถึงไทยเมื่อวันที่ 5 ก.ย.63 เข้าพัก State Quarantine ในกรุงเทพฯ และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 16 ก.ย.63 ผลตรวจพบเชื้อ โดยผู้ป่วยบางคนมีอาการจมูกไม่ได้กลิ่น น้ำมูก

ขณะที่อีก 1 ราย เป็นชายไทย อายุ 50 ปี อาชีพรับจ้าง มีประวัติเคยติดเชื้อมาก่อนเมื่อเดือนก.ค. 63 โดยเดินทางมาจากซาอุดิอาระเบีย ถึงไทยเมื่อวันที่ 5 ก.ย.63 เที่ยวบินเดียวกับผู้ป่วยยืนยันก่อนหน้านี้ 8 ราย เข้าพัก State Quarantine ในกรุงเทพฯ และตรวจหาเชื้อครั้งที่ 2 เมื่อวันที่ 16 ก.ย.63 ผลตรวจพบเชื้อ

สถานการณ์การแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ทั่วโลกล่าสุดมียอดผู้ติดเชื้อรวม 30,348,579 คน และเสียชีวิต 950,545 คน โดยประเทศที่มีผู้ติดเชื้อสูงสุดคือ สหรัฐอเมริกา จำนวน 6,874,596 คน เสียชีวิต 202,213 คน, อินเดีย จำนวน 5,212,686 คน เสียชีวิต 84,404 คน, บราซิล จำนวน 4,457,443 คน เสียชีวิต 135,031 คน, รัสเซีย จำนวน 1,085,281 คน เสียชีวิต 19,061 คน และ เปรู จำนวน 750,098 คน เสียชีวิต 31,146 คน ขณะที่ประเทศไทยอยู่ในอันดับที่ 130

สำหรับสถานการณ์ที่น่าสนใจในต่างประเทศ ได้แก่ สหราชอาณาจักรยืนยันมีผู้ป่วยโควิด-19 เกือบ 4,000 คนภายในวันดียว เป็นสถิติสูงสุดในรอบ 4 เดือน ขณะที่มีรายงานว่ารัฐบาลเตรียมล็อกดาวน์ภาคตะวันออกเฉียงเหนือของเกาะอังกฤษ ซึ่งมีสถิติผู้ติดเชื้อเพิ่มขึ้นมากในรอบ 7 วัน ล่าสุดนายกรัฐมนตรีบอริส จอห์นตัน ตั้งป้าหมายตรวจคัดกรองให้ได้ 500,000 ตัวอย่างต่อวันภายในสิ้นเดือน ต.ค.นี้ ค้นหาผู้ติดเชื้อให้ได้มากที่สุดโดยเฉพาะผู้ซึ่งไม่แสดงอาการ เพื่อหลีกเลี่ยงความเสี่ยงของการล็อกดาวน์ทั้งประเทศเป็นครั้งที่สอง ซึ่งรัฐบาลไม่ต้องการให้เกิดขึ้นในช่วงใกล้เทศกาลคริสต์มาส

ขณะที่สภาส่งออกสัตว์ปีกและไข่แห่งสหรัฐอเมริก เปิดเผยว่า จีนได้สั่งระงับการนำเข้าสัตว์ปีกจากโรงงานแห่งหนึ่งของบริษัทโอเค ฟู้ดส์ ในเมืองฟอร์ตสมิธ รัฐอาร์คันซอ หลังพบคนงานติดเชื้อโควิด-19 หลายร้อยราย โรงงานของโอเค ฟู้ดส์ เป็นโรงงานแปรรูปสัตว์ปีกแห่งที่ 2 ของสหรัฐที่ถูกจีนสั่งระงับการนำเข้า หลังจากพบการแพร่ระบาดของไวรัสโควิด-19 ในกลุ่มคนงาน โดยก่อนหน้านี้ จีนได้สั่งระงับนำเข้าผลิตภัณฑ์จากโรงงานแห่งหนึ่งของบริษัทไทสัน ฟู้ด อิงค์ ในเดือน มิ.ย.ที่ผ่านมา ทั้งนี้จีนซึ่งเป็นผู้นำเข้าเนื้อสัตว์รายใหญ่ของโลก ได้สั่งระงับการนำเข้าผลิตภัณฑ์จากโรงงานในประเทศต่างๆ อันเป็นส่วนหนึ่งของความพยายามในการควบคุมการแพร่ระบาดของโรคโควิด-19

Back to top button