หุ้นยุโรปปิดร่วง ตลาดวิตกภาคการผลิตจีน-สหรัฐชะลอตัว

ตลาดหุ้นยุโรปปิดร่วงลงเมื่อคืนนี้ (1 ก.ย.) เนื่องจากนักลงทุนวิตกกังวลเกี่ยวกับแนวโน้มเศรษฐกิจจีนและสหรัฐ หลังจากมีรายงานว่า ภาคการผลิตของทั้ง 2 ประเทศชะลอตัวลง


สำนักข่าวอินโฟเควสท์รายงานว่า ดัชนี Stoxx Europe 600 ร่วงลง 2.7% ปิด (1 ก.ย.) ที่ 352.89 จุด, ดัชนี CAC-40 ตลาดหุ้นฝรั่งเศสปิดที่ 4,541.16 จุด ลดลง 111.79 จุด หรือ -2.40%, ดัชนี DAX ตลาดหุ้นเยอรมันปิดที่ 10,015.57 จุด ร่วงลง 243.89 จุด หรือ -2.38% และดัชนี FTSE 100 ตลาดหุ้นลอนดอนปิดที่ 6,058.54 จุด ลดลง 189.40 จุด หรือ -3.03%

ตลาดหุ้นยุโรปร่วงลงถ้วหน้า หลังจากมาร์กิตรายงานว่า ดัชนีผู้จัดการฝ่ายจัดซื้อ (PMI) ภาคการผลิตของจีน ลดลงแตะ 47.3 ในเดือนส.ค. จาก 47.8 ในเดือนก.ค. นับเป็นเดือนที่ 6 ติดต่อกันที่ดัชนีปรับตัวต่ำกว่าระดับ 50 แต่ขยับขึ้นเล็กน้อยจากข้อมูลเบื้องต้นที่ 47.1

นอกจากนี้ ตลาดยังได้รับแรงกดดันจากข้อมูลภาคการผลิตที่อ่อนแอของสหรัฐ โดยสถาบันจัดการด้านอุปทานของสหรัฐ (ISM) เปิดเผยว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิต อยู่ที่ระดับ 51.1 ในเดือนส.ค. ลดลงจากระดับ 52.7 ในเดือนก.ค. โดยได้รับผลกระทบจากดอลลาร์ที่แข็งค่า และเศรษฐกิจโลกที่ซบเซา ขณะที่มาร์กิตระบุว่า ดัชนี PMI ภาคการผลิตของสหรัฐปรับตัวลงสู่ระดับ 53.0 ในเดือนส.ค. ซึ่งเป็นระดับต่ำสุดในรอบ 22 เดือน จากระดับ 53.8 ในเดือนก.ค.

หุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลงหนักสุด หลังจากราคาโลหะปรับตัวลดลง โดยดัชนีหุ้นกลุ่มเหมืองแร่ร่วงลง 5.6% ซึ่งปรับตัวลงมากที่สุดในบรรดาหุ้นอุตสาหกรรม ทั้งนี้ มอร์แกน สแตนลีย์ได้ปรับลดคาดการณ์ผลกำไรของบริษัทเหมืองแร่ในปีนี้ แต่ก็คาดว่าผลกำไรจะปรับตัวขึ้นราว 7% ในปีหน้า

Back to top button