JR รายได้พุ่ง! ดันกำไร Q2 โตทะลัก 2 เท่า แตะ 69.57 ลบ.  

JR รายได้พุ่ง! ดันกำไร Q2 โตทะลัก 2 เท่า แตะ 69.57 ลบ.จากปีก่อน 19.43 ลบ. ดัน 6 เดือนแรกมาที่ 124.38 ลบ. 


บริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู. ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JR รายงานผลการดำเนินงานงวดไตรมาส 2 และงวดครึ่งปีแรก ของปี 2564 มีกำไรสุทธิ ดังนี้

โดยผลการดำเนินงานเพิ่มขึ้น เนื่องจากรายได้ที่เพิ่มสูงขึ้นถึงร้อยละ 144.12 สาเหตุมาจากที่บริษัทได้รับงานที่มีโครงการขนาดใหญ่ คือ โครงการเปลี่ยนสายไฟฟ้าอากาศเป็นสายไฟใต้ดินตามแนวรถไฟฟ้าสายสีเหลืองและชมพู และสัมพันธ์กับอัตรากำไรขั้นต้นที่เพิ่มขึ้น

ด้านนายจรัญ วิวัฒน์เจษฎาวุฒิ ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร บริษัท เจ.อาร์.ดับเบิ้ลยู.ยูทิลิตี้ จำกัด (มหาชน) หรือ JR เปิดเผยว่า ภาพรวมผลการดำเนินงานในงวดไตรมาส 2/2564 บริษัทฯมีกำไรสุทธิอยู่ที่ 69.57 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 258.02% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีกำไรสุทธิเท่ากับ 19.43 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 650.36 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 143.82% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ 266.74 ล้านบาท

สำหรับงวด 6 เดือนแรกของปี 2564 มีกำไรสุทธิอยู่ที่ 124.38 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 315.52 % จากงวดเดียวกันปีก่อนมีกำไรสุทธิเท่ากับ 29.93 ล้านบาท ขณะที่มีรายได้รวมอยู่ที่ 1,167.42 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 150.50% จากงวดเดียวกันปีก่อนที่มีรายได้รวมเท่ากับ 466.03 ล้านบาท

สาเหตุที่ผลการดำเนินงานปรับตัวเพิ่มขึ้นและทำสถิติสูงสุดอย่างต่อเนื่อง เพราะบริษัทฯมีงานรอรับรู้รายได้ (Backlog) ซึ่งปัจจุบันมีอยู่ที่ 5,320.8 ล้านบาท ทยอยรับรู้ในระยะยาว 3 ปี โดยจะเป็นการรับรู้รายได้จากธุรกิจรับเหมาวางระบบ เช่น งานระบบไฟฟ้า ระบบสื่อสารโทรคมนาคมและเทคโนโลยี ธุรกิจการให้บริการซ่อมบำรุงรักษา และธุรกิจการจำหน่ายอุปกรณ์

ผลการดำเนินงานในครึ่งปีแรกยังคงเป็นไปตามเป้าหมายที่วางไว้ ซึ่งโครงการต่างๆ ยังคงเดินหน้าแม้จะต้องเผชิญกับสถานการณ์โควิด-19 เมื่อมีการปิดแคมป์คนงานในบางโครงการเกิดขึ้น บริษัทฯยังมีความคล่องตัวในการปรับเปลี่ยนรูปแบบมา เน้นการทำงานในส่วนอื่นๆเพิ่มเติม ขณะเดียวกันบริษัทฯมีความสามารถในการควบคุมต้นทุนวัตถุดิบได้ดี และทำธุรกิจด้วยกระแสเงินสด ทำให้ยังสามารถรักษาการเติบโตรายได้และกำไรในระดับสูงต่อเนื่อง ซึ่งมั่นใจว่าผลงานในปีนี้จะสามารถเติบโตตามเป้าหมายที่วางไว้ และฝ่าวิกฤติโควิด-19ในรอบนี้ไปได้แน่นอน

ประธานเจ้าหน้าที่บริหาร กล่าวอีกว่า สำหรับแผนการดำเนินธุรกิจในช่วงครึ่งปีหลัง บริษัทฯยังคงเดินหน้าประมูลงานใหม่ที่จะออกมาทั้งงานวางระบบไฟฟ้า และระบบสื่อสาร โดยคาดว่าจะมีการยื่นประมูลประมาณ 400 ล้านบาท ขณะที่การประมูลงานรถไฟฟ้าสายสีเหลือง-สีชมพู เฟส 2 มูลค่ารวมไม่ต่ำกว่า 6 พันล้านบาท ซึ่งคาดว่าจะมีการประมูลเกิดขึ้นได้ภายในสิ้นปีนี้ หรืออย่างช้าต้นปีหน้า ก็จะส่งผลให้ปริมาณงานในมือของบริษัทเพิ่มขึ้นอย่างโดดเด่น และสร้างรายได้ในระยะยาวอย่างต่อเนื่อง

ขณะเดียวกันบริษัทฯได้มีการขยายงานด้านวิศวกรรมไปยังอุตสาหกรรมอื่นๆ เพิ่มเติม เพื่อสร้างฐานรายได้ใหม่เพิ่มขึ้น เช่น การเข้าไปในกลุ่มลูกค้าในอุตสาหกรรมน้ำมันและก๊าซ โดยเป็นงานก่อสร้างสถานีไฟฟ้าย่อยให้กับโครงการของบริษัทไทยออยล์ ซึ่งบริษัทฯรับงานจากกิจการร่วมค้า Petrofac South East Asia, Saipem Singapore และ Samsung Engineering โดยมั่นใจว่าจะช่วยผลักดันธุรกิจของกลุ่มบริษัทเติบโตอย่างแข็งแกร่ง และมั่นคงในอนาคต

Back to top button