UNIQ เบี้ยวค่าจ้างงาน-ผู้รับเหมารายย่อยเดือดร้อนร้องเรียนตรงถึงนายก

ผู้รับเหมารายย่อยร้องเรียน “นายกฯ-อาคม-ประธานบอร์ดรฟม. และผู้ว่าฯ รฟม.” ขอความเป็นธรรมเหตุถูก UNIQ ซึ่งอยู่ในกิจการร่วมค้า SH-UN ผู้รับเหมาสัญญา 3 รถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินค้างจ่ายค่างานรื้อย้ายและก่อสร้างท่อร้อยสายโทรศัพท์-เคเบิลใต้ดิน รวมเป็นเงินกว่า 78 ล้านบาท


นายพัลลภ สุนทรชาติ ผู้ประสานธุรกิจ บริษัท สายใยแผ่นดิน จำกัด เปิดเผยว่า เมื่อวันที่ 6 ตุลาคมที่ผ่านมาได้ยื่นหนังสือต่อ พลเอก ประยุทธ์ จันทร์โอชา นายกรัฐมนตรี และหัวหน้าคณะรักษาความสงบแห่งชาติ (คสช.), นายอาคม เติมพิทยาไพสิฐ รัฐมนตรีว่าการกระทรวงคมนาคม, พลเอก ยอดยุทธ บุญญาธิการ ประธานคณะกรรมการ (บอร์ด) การรถไฟฟ้าขนส่งมวลชนแห่งประเทศไทย (รฟม.) และนายพีระยุทธ สิงห์พัฒนากุล ผู้ว่าการ รฟม. เพื่อร้องเรียนขอความเป็นธรรมกรณีผู้ว่าจ้างโครงการก่อสร้างรถไฟฟ้าสายสีน้ำเงินส่วนต่อขยาย ช่วงหัวลำโพง-บางแค และบางซื่อ-ท่าพระ

สืบเนื่องจากทางบริษัท สายใยแผ่นดินได้รับการว่าจ้างจากกิจการร่วมค้า เอสเอช-ยูเอ็น (SH-UN JV) ผู้รับจ้างในสัญญาที่ 3 งานโยธา (ยกระดับ) ช่วงเตาปูน-ท่าพระ (ระยะทาง 11.04 กิโลเมตร) มูลค่าสัญญา 10,846,076,250.41 บาท (ไม่รวมภาษีมูลค่าเพิ่ม) ให้ดำเนินการรื้อย้ายและก่อสร้างท่อร้อยสายโทรศัพท์-เคเบิลใต้ดิน และระบบสื่อสารใหม่เพื่อทดแทนของเดิมที่ถูกรื้อย้าย วงเงินจ้างแบบเหมารวม (Lump sum) 280 ล้านบาท โดยลงนามสัญญาเมื่อวันที่ 19 กรกฎาคม 2554

โดยบริษัทได้รับการติดต่อจากผู้บริหารบริษัท ยูนิค คอนสตรัคชั่น แอนด์ เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ UNIQ ซึ่งอยู่ในกิจการร่วมค้า SH-UN ในการรับงานดังกล่าว ซึ่งข้อตกลงในสัญญาจากผู้บริหารบริษัทยูนิค คือ 1. บริษัทได้รับเช็คเงินแอดวานซ์จำนวน 10 ล้านบาท และหักคืน 20% เมื่อตั้งเบิกทุกงวด (ตามสัญญาข้อ 4.1) 2. ให้การสนับสนุนเครื่องจักรโดยไม่คิดเงิน 3. ตั้งเบิกเงินออกภายใน 15 วัน (ตามสัญญาข้อ 4.2) 4. ค่าคณะกรรมการตรวจรับทีโอที จำนวน 3 ล้านบาท เป็นภาระของกิจการร่วมค้า SH-UN 5. ค่าผู้ควบคุมงานของทีโอที ทรู AIS และส่วนงานที่เกี่ยวข้อง จำนวน 3 ล้านบาท เป็นภาระของบริษัทสายใยแผ่นดิน 6. ค่าวัสดุอุปกรณ์ต่างๆ กิจการร่วมค้า SH-UN เป็นผู้จัดหาให้และหักเงินเมื่อตั้งเบิก (ตามสัญญาข้อ 3.1) 7. ค่าสายโทรศัพท์ทองแดงจำนวน 99,723,403 บาท (ตาม BOQ ที่ออกแบบไว้) กิจการร่วมค้า SH-UN ออกเงินให้ โดยบริษัทฯ ได้เข้าดำเนินการตามสัญญาจ้างทันทีหลังลงนาม โดยการเบิกค่างานงวดที่ 1-8 ไม่มีปัญหา

ทั้งนี้ เมื่อเซ็นสัญญาไปเกือบ 1 ปี ผู้บริหารบริษัท ยูนิคฯ ได้ติดต่อของานโซน 1 และโซน 3 คืน เนื่องจากเกรงบริษัท ทำงานไม่ทัน ซึ่งเป็นการบอกกล่าวด้วยวาจา โดยบริษัทไม่ได้ขัดข้องใดๆ ทั้งนี้เพื่อให้งานแล้วเสร็จเร็วขึ้นโดยตัดงานสายเคเบิลอากาศ 10,827,000 บาทไปด้วย ซึ่งทำให้เริ่มมีปัญหา เช่น การส่งมอบพื้นที่ล่าช้า เบิกจ่ายเงินล่าช้า สั่งทำงานโดยไม่ออกใบสั่งงาน ทำให้การเบิกค่างวดที่ 9 มีปัญหา

ส่วนงวดที่ 10-16 กลับมาปกติ และงวดที่ 17 บริษัท ยูนิคฯ สั่งให้ทำงานด่วน เป็นงานนอกสัญญาเพิ่มเติมจากแบบ โดยงานแล้วเสร็จตั้งแต่เดือนกุมภาพันธ์ 2556 บริษัทฯ ได้รับเงินค่างานเมื่อวันที่ 21 พฤศจิกายน 2556 และงวดที่ 18 เป็นงานอุบัติเหตุ ที่บริษัท ยูนิคฯ สั่งทำด่วนจำนวน 8 งาน เสร็จเดือนสิงหาคม-พฤศจิกายน 2555 แต่ได้รับเงินค่างานหลังจากนั้น 15 เดือน

ต่อมาบริษัท ยูนิคฯ ได้สั่งให้บริษัทสายใยแผ่นดินหยุดงานด้วยวาจาโดยไม่มีหนังสือเป็นลายลักษณ์อักษร ซึ่งได้มีการประชุมร่วมกัน 4 ครั้งใน 8 เดือน (21 ส.ค. 57-8 เม.ย. 58) แต่จนถึงปัจจุบันบริษัท ยูนิคฯ ยังไม่จ่ายค่างานให้บริษัทเป็นเงินรวม 78,156265.06 บาท

 

Back to top button