EPG วิ่ง 3% สามโบรกฯเชียร์ “ซื้อ” ชี้ไตรมาส 2/65 กำไรแตะ 420 ลบ. รับธุรกิจหลักหนุน

EPG วิ่ง 3% สามโบรกฯเชียร์ “ซื้อ” ชี้ไตรมาส 2/65 กำไรแตะ 420 ลบ. หลังอุปสงค์แกร่ง และผลกระทบที่จำกัดจากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวขึ้น รวมถึงแรงหนุนจาก 3 ธุรกิจหลัก AeroFlex, AeroKlas และ EPP


ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (28 ต.ค. 2564) ราคาหุ้นบริษัท อีสเทิร์นโพลีเมอร์ กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) หรือ EPG ณ เวลา 10:47 น. อยู่ที่ระดับ 11.10 บาท เพิ่มขึ้น 0.30 บาท หรือ 2.78% โดยทำจุดสูงสุดที่ 11.30 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 11.00 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 150.75 ล้านบาท

บริษัทหลักทรัพย์ คันทรี่กรุ๊ป จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ ว่า คงมุมมองเชิงบวกต่อผลประกอบการในช่วงที่เหลือของปีโดยทางฝ่ายวิจัยคาดการณ์รายได้ทั้ง 3 ธุรกิจหลัก จะมีรายได้เติบโตพร้อมกันใน ปี 2565 (เม.ย 2564 – มี.ค. 2565) ประกอบกับอัตรากำไรขั้นต้นที่คาดว่า สามารถยืนอยู่บริเวณสูงได้จากอุปสงค์สินค้าที่แข็งแกร่งและผลกระทบที่จำกัดจากราคาวัตถุดิบที่ปรับตัวขึ้น แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 15 บาท

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ เคทีบีเอสที จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ โดยประเมินกำไรสุทธิไตรมาส 2/2565 ยังอยู่ในเกฑณ์ดีที่ 420 ล้านบาท เพิ่มขึ้น 36% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 6% จากไตรมาสก่อน โดยเติบโตจากงวดเดียวกันของปีก่อน จากฐานต่ำในปีก่อน ส่วนลดลงจากไตรมาสก่อนเป็นผลจาก Aeroflex และ EPP ที่ชะลอตัว ส่วน Aeroklas ยังทรงตัว ทั้งนี้ทางฝ่ายวิจัยยังคงประมาณการกำไรปกติปี 2565 ทำสถิติสูงสุดใหม่ที่ 1.70 พันล้านบาท เพิ่มขึ้น 46% จากงวดเดียวกันของปีก่อน

สำหรับแนวโน้มไตรมาส 3/2565 จะปรับตัวดีขึ้นจากไตรมาสก่อน จากการคลายล็อกดาวน์ทำให้กำลังซื้อฟื้นตัว และ GPM จะดีขึ้นจาก utilization rate ที่สูงขึ้น ส่วนต้นทุนวัตถุดิบจะทรงตัว อย่างไรก็ตามราคาหุ้น underperform SET ลดลง 9% ในช่วง 3 เดือน จากความกังวลราคาน้ำมันที่เพิ่มขึ้น อาจกระทบต้นทุนปิโตรเคมี ยังคงแนะนำ “ซื้อ” จาก (1) ผลกระทบจากราคาน้ำมันมีจำกัดการจัดซื้อวัตถุดิบปิโตรเคมีล่วงหน้า, การปรับราคาขายขึ้นและ utilization rate ที่ดีขึ้น (2) กำไรจะกลับมามีทิศทางที่ดีในครึ่งปีหลัง 2565 และปี 2565 – 2566 จะทำสถิติสูงสุดใหม่ได้ต่อเนื่อง และ (3) valuation ปัจจุบันน่าสนใจ เทรดที่ปี 2565 ค่า PER ที่ 18.50 เท่า

ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ เมย์แบงก์ กิมเอ็ง (ประเทศไทย) จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์ โดยคาดไตรมาส 2/2564/2565 จะมีกำไร 415 ล้านบาท โตจากปีก่อนต่อ แม้ไม่ทำนิวไฮตามที่คาดหวังจากมีค่าใช้จ่ายพิเศษเกี่ยวกับ Covid-19 สำหรับแนวโน้มผลประกอบการปี 2564/2565 คาดจะทำสถิติสูงสุดใหม่ต่อเนื่อง จากแรงหนุนการเติบโตทั้งสามธุรกิจ AeroFlex, AeroKlas และ EPP ทั้งนี้ราคาหุ้นอ่อนตัวลงทำให้ซื้อขาย ค่า P/E ต่ำกว่าค่าเฉลี่ย และ มีอัตราเงินปันผลตอบแทนที่ดี 3.70% คงแนะนำ “ซื้อ” โดยประเมินราคาเป้าหมาย 15 บาท

 

Back to top button