MICRO พุ่ง 5% ลุ้นผลงาน Q4 โตเด่น รับไฮซีซั่น-ขยายสาขาเพิ่ม โบรกฯชูเป้า 13 บ.

ผู้สื่อข่าวรายงานว่าวันนี้ (15 พ.ย. 2564) ราคาหุ้นบริษัท ไมโครลิสซิ่ง จำกัด (มหาชน) หรือ MICRO ณ เวลา 14:55 น. อยู่ที่ระดับ 8.45 บาท เพิ่มขึ้น 0.40 บาท หรือ 4.97% โดยทำจุดสูงสุดที่ 8.60 บาท และทำจุดต่ำสุดที่ 8.05 บาท ด้วยมูลค่าการซื้อขาย 86.61 ล้านบาท

บริษัท หลักทรัพย์ ดีบีเอส วิคเคอร์ส (ประเทศไทย) จำกัด ระบุในบทวิเคราะห์ (15 พ.ย. 2564) ว่า บริษัทฯ รายงานกำไรสุทธิไตรมาส 3/2564 เท่ากับ 47 ล้านบาท เติบโตเพิ่มขึ้น 26% จากงวดเดียวกันของปีก่อน แต่ลดลง 20% จากไตรมาสก่อน ซึ่งต่ำกว่าที่ทางฝ่ายวิจัยคาดไว้ที่ 53 ล้านบาท เนื่องจากตั้งสำรอง ECL สูง โดยมีตัดหนี้สูญ 17 ล้านบาทในไตรมาสนี้ อย่างไรก็ตาม PPOP เพิ่มดี 64% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 1% จากไตรมาสก่อน เป็นไปตามคาด ทั้งนี้การเติบโตที่แข็งแกร่งจากงวดเดียวกันของปีก่อน มาจากสินเชื่อโตดีจากการขยายสาขาจาก 12 แห่งสิ้นปี 2563 เป็น 17 แห่งในสิ้นไตรมาส 3/2564 โดยสินเชื่อสิ้นก.ย. 2564 โตเพิ่มขึ้น 50% จากงวดเดียวกันของปีก่อน และเพิ่มขึ้น 8% จากไตรมาสก่อน และเพิ่มขึ้น 33% จากต้นปีถึงปัจจุบัน อีกทั้งรายได้ Fee เพิ่มขึ้น ส่วน C/I ratio ลดลง แม้ตั้งสำรอง ECL เพิ่มขึ้น

อย่างไรก็ดีบริษัทฯ มีแผนเปิดสาขาเพิ่ม 2 แห่งในเดือนพ.ย.และธ.ค.2564 ทำให้สิ้นปีนี้จะมีทั้งสิ้น 19 สาขา ซึ่งเครือข่ายที่ใหญ่ขึ้นทำให้สินเชื่อขยายตัวได้ดี และกระจายความเสี่ยงทางธุรกิจ บริษัทฯ มีแผนเปิดสาขาใหม่อย่างน้อย 4 แห่งในปี 2565 ขึ้นกับภาวะเศรษฐกิจ

สำหรับแนวโน้มไตรมาส 4/2564 จะเติบโตดีต่อเนื่อง เพราะเป็นช่วง High season ของธุรกิจ โดยผู้บริหารระบุว่าเดือนต.ค.2564 ปล่อยสินเชื่อใหม่ได้กว่า 200 ล้านบาท ซึ่งเป็น all-time high และส่วนแบ่งการตลาดแตะ 10% แล้ว (ไตรมาส 3/2563 อยู่ที่ 4.90%) ส่วน NPL ratio สิ้นไตรมาส 3/2564 อยู่ที่ 3.50% และมี Coverage ratio 117% โดยบริษัทฯ ตั้งเป้าลด NPL ratio เป็นต่ำกว่า 3.00% ในสิ้นปี 2565

ทั้งนี้คงคำแนะนำ “ซื้อ” ให้ราคาพื้นฐาน 13 บาท โดยทางฝ่ายวิจัยคาดว่าผลประกอบการในปี 2565 – 2566 ยังเติบโตได้ดีต่อเนื่อง ทั้งจากขยายสาขา, แตกไลน์ธุรกิจไปยังสินเชื่อจำนำและสินเชื่อส่วนบุคคล และมี Economy of scale