SIRI-SC ดีดแรง! เล็งสลับ “เพื่อไทย” ขึ้นนำจัดตั้งรัฐบาล- ลุ้นกำไร Q2 สวย

SIRI-SC พุ่งต่อ! เก็งหุ้นเชื่อมโยงการเมือง โบรกชี้รับโอกาสสูง "เพื่อไทย" พลิกขึ้นนำจัดตั้งรัฐบาล-ลุ้นงบไตรมาส 2/66 โตเด่น


ผู้สื่อข่าวรายงานว่า วันนี้(17 ก.ค.)ราคาหุ้นได้ประโยชน์มีส่วนเกี่ยวข้องกับการเมืองบวกคึก นำโดยบริษัท แสนสิริ จำกัด (มหาชน) หรือ SIRI ณ เวลา 10:18 น. อยู่ที่ระดับ 2.00 บาท บวก 0.07 บาท หรือ 3.63% ราคาสูงสุด 2.04 บาท ราคาต่ำสุด 1.97 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 727.44 ล้านบาท 

ส่วนบริษัท เอสซี แอสเสท คอร์ปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) หรือ SC ณ เวลา 10:21 น. อยู่ที่ระดับ 4.62 บาท บวก 0.14 บาท หรือ 1.13% ราคาสูงสุด 4.70 บาท ราคาต่ำสุด 4.56 บาท ด้วยมูลค่าซื้อขาย 89.18 ล้านบาท 

โดยราคาหุ้นคาดนักลงทุนเข้าเก็งกำไรหุ้นเชื่อมโยงการเมือง โดยเฉพาะกรณีนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ ส.ส.บัญชีรายชื่อ ในฐานะหัวหน้าพรรคก้าวไกลและแคนดิเดทนายกรัฐมนตรี ไม่ได้รับการโหวตเป็นนายกฯ ขณะที่พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำแทน

บล.พาย ระบุว่า หลังผ่านพ้นการเลือกนายกฯใน วันที่ 13 ก.ค.66 จะเข้าสู่กระบวนการเลือกรอบ 2 ในวันที่ 19 ก.ค.เชื่อว่าหากยังเสนอนายพิธา ลิ้มเจริญรัตน์ หัวหน้าพรรคก้าวไกลเป็นนายกรัฐมนตรีก็ประเมินเช่นเดิมว่าจะไม่ผ่านการโหวดจาก ส.ว. แต่ในช่วงวันหยุดที่ผ่านมานายพิธาได้โพสต์ FB ระบุว่า หากพรรคก้าวไกลไม่สามารถเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาลได้ก็พร้อมเปิดโอกาสให้พรรคอันดับสองอย่างพรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล และ ส.ส. พรรคก้าวไกลทุกคนก็พร้อมสนับสนุนแคนดิเดตนายกรัฐมนตรีจากพรรคเพื่อไทย ดังนั้นยิ่งเพิ่มความน่าจะเป็นที่พรรคเพื่อไทยจะขึ้นเป็นแกนนำจัดตั้งรัฐบาล

ขณะที่บล.ฟินันเซีย ไซรัส ระบุในบทวิเคราะห์ว่า คาดกำไรไตรมาส 2/66 ของ SIRI ที่ 1.6-1.7 พันล้านบาท โตทั้งเทียบไตรมาสก่อนหน้า และ เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน หนุนจากยอดโอนที่แข็งแรงจากแบ็กล็อก และโครงการ Low-Rise ใหม่ ส่วนการเปิดโครงการใหม่ในไตรมาส 2/66 ทั้งแนวราบและ Campus Condo ได้รับการตอบรับที่ดี

ยังคาดกำไรปกติปี 66 ของ SIRI จะยังทำ Record High ที่ 4.5 พันล้านบาท โต 11% เทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน และอาจเห็น Upside ส่วนปันผลงวดครึ่งปีแรก คาดจ่าย Yield 4-5% แนะนำ “ซื้อ” ราคาเป้าหมาย 2.20 บาท

ส่วน บล.กรุงศรี ระบุในบทวิเคราะห์ว่า SC แนะนำ “ซื้อ” พร้อมให้เป้า IAA Consensus 5 บาท ประเมินผลกำไรจะดีขึ้นทั้งเทียบไตรมาสก่อนหน้า และเทียบช่วงเดียวกันของปีก่อน ตั้งแต่ไตรมาส 2/66 จากยอดแบ็กล็อกในมือ และเร่งเปิดโครงการใหม่เน้นแนวราบระดับราคา 20 ล้านบาท และ 100 ล้านบาทต่อยูนิต

บริษัทหลักทรัพย์ กรุงศรี พัฒนสิน จำกัด (มหาชน) ระบุในบทวิเคราะห์วันนี้ว่า ความคืบหน้าการเมืองสุดสัปดาห์หลักๆ คือ  นายวันมูหะมัดนอร์ มะทา ประธานสถายืนยันประชุมโหวตนายกฯ ครั้งต่อไป 19 ก.ค. แต่ไม่มีข้อสรุปว่าจะเป็นการชื่อ พิธา รอบที่ 2 ได้หรือไม่หลังโหวตไม่ผ่านรอบแรกทั้งนี้ยังคงมองฉากทัศน์การเมืองเป็นไปได้ 4 กรณี

กรณีที่ 1 คือ คุณพิธาฯ ได้รับการโหวตเป็นนายกรัฐมนตรี พรรคก้าวไกล+ 8 พรรคร่วมรัฐบาลปัจจุบันจะจัดตั้งรัฐบาล 311 เสียง มองความชัดเจนหนุน SET แต่ความเสี่ยงนโยบายต่อตลาดทุนระยะกลางเป็นอะไรที่ต้องติดตาม และอาจจำกัดกรอบราว 1600-1620จุด กลุ่มเคลื่อนไหวดีกว่าตลาด คือ กลุ่มหุ้นอิงการบริโภคขนาดกลางอิงรากฐานแข็งแรงขึ้น+ได้ประโยชน์รัฐสวัสดิการ และนโยบายอื่นๆของพรรคก้าวไกล อาทิ CPAXT, ICHI, MC, GLOBAL, BCH, CHG, HANA, AMATA, WHA, BBL, KTB, TTB กลุ่มที่เป็นแรงขับเคลื่อนเศรษฐกิจปัจจุบันในภาคท่องเที่ยว อาทิ ERW, MINT

กรณีที่ 2 คือ คุณพิธาฯ ไม่ได้รับการโหวตเป็นนายกฯ ขณะที่พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำแทนและยังตั้งรัฐบาลกับ 8 พรรคร่วมปัจจุบัน 311 เสียง มองความชัดเจนหนุน SET แต่ความเสี่ยงนโยบายต่อตลาดทุนระยะกลางจะต่ำกว่ากรณีที่ 1 จะทำให้แกว่งขึ้นกรอบราว 1680-1720 จุด กลุ่มเคลื่อนไหวดีกว่าตลาด คือ กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTGC, GULF, BGRIM) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC, TRUE, THCOM) กลุ่มอสังหาฯ (SC, SIRI) และหากไม่เกิดการชุมนุมที่มีความรุนแรง กลุ่มที่เคลื่อนไหวบวกตามมากลุ่มอิงการบริโภคภายใน คือ กลุ่มธนาคาร (BBL, KTB, TTB) กลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT, CRC, BJC, DOHOME, GLOBAL) กลุ่มนิคม (AMATA, WHA) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, ERW, MINT)

กรณีที่ 3 คือ คุณพิธาฯ ไม่ได้รับการโหวตเป็นนายกฯ ขณะที่พรรคเพื่อไทยขึ้นมาเป็นแกนนำแทน ขณะที่พลิกขั้วไปจับพรรคว่าที่ฝ่ายค้าน ประเมินเสียงราว 280-310 เสียง มองความชัดเจนหนุน SET แต่ความเสี่ยงนโยบายต่อตลาดทุนระยะกลางจะต่ำกว่ากรณีที่ 1 จะทำให้แกว่งขึ้นกรอบราว 1620-1680 จุด กลุ่มเคลื่อนไหวดีกว่าตลาด คือ กลุ่มพลังงาน (PTT, PTTGC, GULF, BGRIM, PTTGC) กลุ่มสื่อสาร (ADVANC, TRUE, THCOM) กลุ่มรับเหมาฯ (ITD, STEC) แต่ความเสี่ยงการชุมนุมที่อาจจะเกิดขึ้นมีความตึงเครียดกว่ากรณีที่ 2 จะสร้างแรงกดดันต่อกลุ่มอิงการบริโภคภายในจนกว่าการชุมนุมจะสิ้นสุด คือ กลุ่มธนาคาร (BBL, KTB, TTB) กลุ่มค้าปลีก (CPALL, CPAXT, CRC, BJC) กลุ่มนิคม (AMATA, WHA) กลุ่มท่องเที่ยว (AOT, ERW, AWC)

กรณีที่ 4 คือ คุณพิธาฯ ไม่ได้รับการโหวตเป็นนายกฯ ขณะที่การจัดตั้งรัฐบาลจะอยู่ในลักษณะเสียงข้างน้อย คือ ว่าที่พรรคร่วมฝ่ายค้านปัจจุบัน ประเมินเสียงราว 140-150 เสียง มองกดดัน SET จากทั้งการขับเคลื่อนนโยบายขาดเสถียรภาพ และมีความเสี่ยงการชุมนุมที่อาจจะเกิดขึ้นมีความตึงเครียดมากสุดในทุกกรณี ประเมิน SET กรอบ 1350-1460 จุด กลุ่มที่เคลื่อนไหวดีกว่าตลาดมองกลุ่มถูกกดดันจากการเมือง อาทิ GULF, BGRIM, THCOM, TRUE, STEC, STPI อิงความต้องการโลก (Global Plays) อาทิ HANA, KCE, DELTA, CPF, GFPT, PTTGC, IVL ส่วนกลุ่มอิงภายใน+ท่องเที่ยวจะเผชิญภาพลบ

ด้านบริษัทหลักทรัพย์ ยูโอบี เคย์เฮียน (ประเทศไทย) จำกัด ระบุก่อนหน้านี้ว่า หุ้นที่มีความเกี่ยวโยงกับการเมือง ซึ่งถือว่าเป็นการเพิ่มพรีเมียมในการเล่นเก็งกำไร ซึ่งหุ้นที่เกี่ยวข้องกับการเมืองอย่าง SC, SIRI ต่างมีแนวโน้มธุรกิจที่ดีอยู่แล้ว พอตลาดมองเป็นหุ้นการเมืองก็เข้ามาเล่นเก็งกำไรกันมากขึ้น

ส่วนบริษัทหลักทรัพย์ กรุงไทย เอ็กซ์สปริง จำกัด ระบุว่า การเล่นหุ้นการเมืองให้มองที่นโยบายแต่ละพรรคการเมืองเป็นอย่างไร ใครได้ประโยชน์ให้มองนโยบายเป็นหลัก เช่น SC ของกลุ่มตระกูลชินวัตร, STEC ของครอบครัว “เสี่ยหนู” เป็นต้น ซึ่งหุ้น SC คนเล่นเพราะมีผลงานเติบโตดี และปันผลดี

Back to top button