DSI สั่งฟ้อง 11 รายเอี่ยวหุ้น STARK เสียหาย 14,778 ล้าน

ดีเอสไอ เฉือดแล้ว 11 ราย เอี่ยวโกงหุ้น STARK สั่งฟ้องข้อหาหนัก "ตกแต่งบัญชี-ฉ้อโกง-ฟอกเงิน" อึ้งความเสียหาย 14,778 ล้าน


วันที่ 8 ธ.ค. 66 พ.ต.ต.ยุทธนา  แพรดำ รองอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ(ดีเอสไอ) รักษาราชการในตำแหน่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษ  พ.ต.ต.วรณัน  ศรีล้ำ โฆษกกรมสอบสวนคดีพิเศษ พ.ต.ต.ณฐพล  ดิษยธรรม ผู้เชี่ยวชาญเฉพาะด้านคดีคุ้มครองผู้บริโภคและสิ่งแวดล้อม พล.ต.ต.พุฒิเดช บุญกระพือ ผู้บังคับการปราบปรามการกระทำความผิดเกี่ยวกับอาชญากรรมทางเศรษฐกิจ (ปอศ.) และนายวิทยา นีติธรรม โฆษกประจำสำนักงานป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน ( ปปง.) ได้ร่วมกันแถลงความคืบหน้าในการดำเนินการในคดีพิเศษการทุจริตในบริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) (STARK)

โดยกรณี STARK นั้น  ดีเอสไอได้รับเป็นคดีพิเศษเมื่อวันที่ 20 มิถุนายน 2566 มีผู้เสียหายทั้งสิ้นจำนวน 4,704 ราย มูลค่าความเสียหายจำนวน 14,778,000,000 ล้านบาท (คดีพิเศษที่ 57/2566)  คดีนี้มีผลกระทบต่อตลาดทุนเป็นอย่างมาก ดีเอสไอจึงเริ่มทำการสอบสวนเป็นคดีพิเศษ   โดยมี พ.ต.ต.ยุทธนา เป็นหัวหน้าคณะพนักงานสอบสวนเอง ล่าสุดได้ทำการสอบสวนเสร็จสิ้นแล้ว  ทางคดีมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหา รวม 11 คน ในความผิดตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ฐานฉ้อโกงประชาชน ตามประมวลกฎหมายอาญา และฐานฟอกเงินตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม

โดยคณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษ กองคดีการเงินการธนาคารและการฟอกเงิน ได้ส่งสำนวนการสอบสวนคดีพิเศษไปยังพนักงานอัยการสำนักงานคดีพิเศษแล้ว ซึ่งอธิบดีกรมสอบสวนคดีพิเศษมีความเห็นควรสั่งฟ้องผู้ต้องหาจำนวน 11 ราย ในความผิดตามพ.ร.บ.หลักทรัพย์และตลาดหลักทรัพย์ พ.ศ. 2535 ฐานตกแต่งบัญชีและงบการเงิน และฐานฉ้อโกงประชาชน รวมถึงความผิดตามพ.ร.บ.ป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 โดยมีเอกสารพยานหลักฐานทั้งสิ้นจำนวน 22 ลัง 140 แฟ้ม 52,968 แผ่น

นอกจากการดำเนินคดีอาญาดังกล่าว คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษยังพบว่ามีการนำเงินจำนวน 10,000 ล้านบาท โอนเข้ากลุ่มบริษัทของผู้ต้องหาเพื่อไปชำระหนี้เจ้าหนี้การค้า รวมทั้งยักย้ายถ่ายเทเข้าบัญชีส่วนตัวอีกส่วนหนึ่ง ซึ่งได้ส่งข้อมูลให้ สำนักงาน ปปง. พิจารณาดำเนินการติดตามยึดทรัพย์สินดังกล่าว เพื่อดำเนินการคุ้มครองสิทธิผู้เสียหายต่อไป

สำหรับรายชื่อผู้ต้องหา ประกอบด้วยบุคคลและนิติบุคล  คือ  นายชนินทร์ เย็นสุดใจ , นายวนรัชต์ ตั้งคารวคุณ , นายชินวัฒน์ อัศวโภคี , นายศรัทธา จันทรเศรษฐเลิศ , นายกิตติศักดิ์ จิตต์ประเสริฐงาม , น.ส.ยสบวร อำมฤต , บริษัท สตาร์ค คอร์เปอเรชั่น จำกัด (มหาชน) . บริษัท เฟ้ลปส์ ดอด์จ อินเตอร์เนชั่นแนล (ไทยแลนด์) , บริษัท อดิสรสงขลา จำกัด , บริษัท ไทยเคเบิ้ล อินเตอร์เนชั่นแนล จำกัด , บริษัท เอเชีย แปซิฟิก ดริลลิ่ง เอ็นจิเนียริ่ง จำกัด 

ส่วนความคืบหน้ากรณีหุ้น บริษัท มอร์ รีเทิร์น จำกัด (มหาชน) (MORE) ในระหว่างวันที่ 18 ก.ค. 65 – 10 พ.ย. 65 (ช่วง pre – open) มีกลุ่มบุคคลรวม 32 ราย ร่วมกันสร้างราคาหรือปริมาณการซื้อขายหลักทรัพย์ MORE อย่างต่อเนื่อง ในลักษณะแบ่งหน้าที่กันทำ มีมูลค่าความเสียหายประมาณ 800 ล้านบาท(คดีพิเศษที่ 66/2566)

โดยในตอนนี้ คณะพนักงานสอบสวนคดีพิเศษและพนักงานสอบสวนกองบัญชาการสอบสวนกลางที่ได้มาปฏิบัติหน้าที่ในกรมสอบสวนคดีพิเศษเพื่อช่วยเหลือในการสืบสวนและสอบสวนคดี ได้ออกหมายเรียกผู้ต้องหา จำนวน 29 ราย และแจ้งข้อกล่าวหาแก่ผู้ต้องหาแล้วจำนวน 10 ราย และอยู่ระหว่างเร่งรัดตรวจสอบเส้นทางการเงิน เพื่อนำมาตรการตามพระราชบัญญัติป้องกันและปราบปรามการฟอกเงิน พ.ศ. 2542 และที่แก้ไขเพิ่มเติม มาดำเนินการต่อไป.

Back to top button